คดีฮั้วสว. ยังไร้ความคืบหน้า ส่อกระทบองค์กรอิสระชุดใหม่
ครบปีแต่คดีฮั้วสว.ไม่ถึงศาล กลุ่มสว.สำรองจี้ กกต. เร่งส่งสำนวนใน12 ส.ค. หวั่นผู้เกี่ยวข้อง 229 รายมีอำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระ กระทบความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม
KEY
POINTS
- คดีฮั้วเลือกตั้ง สว. ไม่มีความคืบหน้ามากว่า 1 ปี แม้มีผู้ถูกกล่าวหาจำนวนมาก แต่ กกต. ยังไม่ส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัย
- ความล่าช้าของคดีถูกวิจารณ์ว่าอาจเกิดจากแรงกดดันทางการเมือง และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบของ กกต.
- กรณีดังกล่าวอาจกระทบต่อความชอบธรรมขององค์กรอิสระชุดใหม่ เนื่องจาก สว. ชุดปัจจุบันที่มีข้อครหาเป็นผู้มีอำนาจในการแต่งตั้ง
เหตุการณ์: คดีฮั้ว สว. ยังไร้ทิศทาง หลังผ่านมากว่าหนึ่งปี
แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 1 ปี นับจากมีการร้องเรียนว่ามีการ ฮั้วกันระหว่างผู้สมัคร สว. เพื่อสนับสนุนกันเองในกระบวนการเลือกตั้งทางอ้อม ซึ่งจัดโดยกลุ่มวิชาชีพทั่วประเทศ แต่คดีกลับไร้ความคืบหน้าอย่างมีนัยยะ
มีข้อมูลล่าสุดชี้ว่า คดีฮั้วสว.มีผู้เกี่ยวข้องมากถึง 229 คน และ ส.ว. ที่ได้ตำแหน่งจากกระบวนการนี้ถึง 138 คน แต่ กกต. ยังไม่ส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัย ขณะที่กลุ่ม “ส.ว.สำรอง” เรียกร้องให้เร่งรัดก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 2568
สาเหตุ: กลไกตรวจสอบติดล็อก–การเมืองแทรกแซง?
แม้จะมี หลักฐานเชิงพฤติกรรมและคำร้องจากภาคประชาสังคม ที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. แต่กระบวนการสอบสวนของ กกต. กลับถูกวิจารณ์ว่า ล่าช้า-ขาดความโปร่งใส
หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้ ไม่ใช่คดีธรรมดา เพราะกระทบ รากฐานของวุฒิสภา และ สมดุลอำนาจองค์กรอิสระในอนาคต จึงเกิดคำถามว่า มีแรงกดดันทางการเมืองต่อ กกต. หรือไม่ และ ใครได้ประโยชน์จากความล่าช้า
ผู้เล่นหลัก:
- กกต. – หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ไต่สวนและส่งเรื่องต่อศาล
- กลุ่ม ส.ว.สำรอง – ภาคส่วนที่ไม่ได้รับเลือก รวบรวมข้อมูลและผลักดันการตรวจสอบ
- ส.ว.ชุดปัจจุบัน – ผู้มีบทบาทสำคัญในการแต่งตั้งองค์กรอิสระ เช่น กกต., ศาล รธน., ป.ป.ช.
- พรรคการเมืองฝ่ายค้าน – เฝ้าจับตาว่าองค์กรที่แต่งตั้งโดย ส.ว.ที่อาจผิดกฎหมาย จะมีความชอบธรรมหรือไม่
- ภาคประชาชนและองค์กรภาคประชาสังคม – เริ่มเคลื่อนไหวให้เปิดเผยรายชื่อ และเร่งตรวจสอบเชิงระบบ
ผลกระทบ:
วิกฤตศรัทธาองค์กรตรวจสอบ
- เมื่อ กกต. ไม่เร่งส่งคดีต่อศาล อาจถูกมองว่า เป็นองค์กรที่ลอยตัวจากความรับผิดชอบ หรือแทรกแซงโดยชนชั้นนำการเมือง
- องค์กรอิสระในอนาคตอาจถูกครอบงำ
- หาก ส.ว. ที่มีข้อครหายังดำรงตำแหน่ง และมีอำนาจแต่งตั้งตุลาการ-กรรมการองค์กรอิสระ อาจทำให้การตรวจสอบคดีการเมืองในอนาคต หมดความชอบธรรม
กระทบความชอบธรรมรัฐธรรมนูญ 2560
การออกแบบวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกวิจารณ์หนักว่าเป็น “กลไกสืบทอดอำนาจ” ซึ่งคดีฮั้วอาจยิ่งตอกย้ำข้อครหานี้
แนวโน้มอนาคต:
- หาก กกต.ส่งสำนวนภายใน 12 ส.ค. และศาลรับเรื่อง คดีนี้อาจเป็น หมุดหมายสำคัญในการปลดล็อกระบบอุปถัมภ์ของวุฒิสภา
- แต่หากยังเพิกเฉย กระแสกดดันต่อ ส.ว. และองค์กรอิสระจะรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากพรรคการเมือง ฝ่ายประชาชน และสื่ออิสระ ซึ่งอาจลุกลามเป็น การเรียกร้องปฏิรูปวุฒิสภาทั้งระบบ
- อีกทางหนึ่ง หากไม่มีความเคลื่อนไหวจากศาลและ กกต. อาจจุดประกายการฟ้องศาลปกครองหรือศาล รธน.โดยประชาชนหรือฝ่ายค้าน โดยอ้างความล่าช้าเกินควร
บทสรุป:
คดีฮั้ว ส.ว. ไม่ใช่เพียง “การเลือกตั้งภายในกลุ่มวิชาชีพ” ที่ผิดพ.ร.ป. แต่คือ จุดเปราะบางของระบบประชาธิปไตยไทย ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงการแต่งตั้งองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ และอนาคตของการตรวจสอบอำนาจรัฐ หากไม่มีความคืบหน้าในเร็ววัน ระบบการเมืองไทยจะต้องเผชิญคำถามสำคัญว่า เรากำลังเดินหน้าอย่างถูกทางหรือไม่
ที่มาประกอบเนื้อหาข่าว เนชั่นสุดสัปดาห์


