แพทย์รพ.ตำรวจให้การคดีชั้น14ทักษิณมีช่วงดีขึ้นลุกนั่งโซฟาได้
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯนักการเมืองไต่สวนพยานคดีชั้น14แพทย์โรงพยาบาลตำรวจเผยทักษิณมีช่วงดีขึ้นถึงขั้นนั่งโซฟาได้
KEY
POINTS
- ศาลฎีกาไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีการซักค้านพยานกลุ่มแพทย์
- แพทย์ผู้ทำการรักษาเบิกความว่าอาการป่วยของนายทักษิณมีช่วงที่ดีขึ้น
- พยานแพทย์ยืนยันว่าเคยเห็นนายทักษิณลุกขึ้นมานั่งที่โซฟาภายในห้องพัก ไม่ได้นอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา
- แพทย์ผู้รักษามีความเห็นส่วนตัวว่าหลังรักษาไประยะหนึ่ง สามารถส่งตัวนายทักษิณกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2568 ศาลฎีกาเรียกไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการบังคับโทษคดีถึงที่สุดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นครั้งที่ 5 โดยมีการซักค้านพยานกลุ่มแพทย์อย่างเข้มข้น แพทย์ผู้รักษาเผยมีช่วงที่ดีขึ้นถึงขั้นนั่งโซฟาได้
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ เปิดเผยก่อนการไต่สวนว่า วันนี้ศาลจะสืบพยานแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ 6 ปาก รวมถึงแพทย์ใหญ่ทั้งอดีตและปัจจุบัน และทีมแพทย์ผู้รักษา โดยจะมีการนำเวชระเบียนและประวัติการรักษาในต่างประเทศมาประกอบการพิจารณา ซึ่งศาลให้ความสนใจและอยากทราบรายละเอียด
สำหรับการไต่สวนในช่วงเช้า ศาลได้ไต่สวนพยานแพทย์ 3 ปาก ได้แก่ อดีตแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ, แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน และแพทย์ผู้ทำการรักษานายทักษิณที่เข้าเวรเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค. 2566
พยานที่เป็นแพทย์ใหญ่ทั้งสองปากเบิกความว่า ห้องพักชั้น 14 มีผู้ป่วยมาพักก่อนหน้านี้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงที่โรงพยาบาลกักตัวผู้ป่วยโควิด ทำให้ต้องใช้ห้องพักผู้ป่วยทุกห้อง
ส่วนพยานปากที่ 3 ซึ่งเป็น "แพทย์ผู้ทำการรักษา" เบิกความถึงอาการในช่วงแรกที่นายทักษิณเข้ารับการรักษา โดยมีการโทรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ และระบุว่าระหว่างการรักษา นายทักษิณมีอาการป่วยด้วยโรคอื่นที่แพทย์แนะนำให้ผ่าตัด แต่เจ้าตัวปฏิเสธการผ่าตัด
ทั้งนี้ แพทย์ยืนยันว่าให้การรักษาตามจรรยาบรรณแพทย์ ไม่รู้ระเบียบการส่งตัวผู้ป่วยจากเรือนจำ และที่สำคัญคือ แพทย์รายนี้ยังเบิกความอีกว่า "พอรักษาไปสักพัก ถ้าเป็นความเห็นส่วนตัวสามารถส่งกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ และเคยเห็นนายทักษิณไปนั่งที่โซฟาภายในห้องพัก นอกจากจะนอนอยู่แค่ที่เตียง" การที่ได้เป็นแพทย์เจ้าของไข้นายทักษิณนั้น เนื่องจากเป็นแพทย์ที่รับเคสคนแรก


