ภูมิธรรมจ่อเกลี่ยงบท้องถิ่นใหม่พบกระจุกตัวสุรินทร์-บุรีรัมย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงประเด็นการจัดสรรงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.57 แสนล้านบาทในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่กำลังเป็นที่กังวล หลังพบปัญหางบประมาณกระจุกตัวในบางพื้นที่อย่างไม่เหมาะสม ชี้ชัดเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขเพื่อประสิทธิภาพการใช้จ่าย
 

นายภูมิธรรมกล่าวถึงการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2568 เกี่ยวกับการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น 40,000 ล้านบาท ว่านี่คือปัญหาที่ตนเองกำลังดำเนินการแก้ไขในกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น โดยได้รับเรื่องร้องเรียนจาก อปท. จำนวนมากที่ระบุว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การจัดสรรงบประมาณท้องถิ่นมีการกระจุกตัวอย่างรุนแรง

"บาง อบต. อบจ. ขออะไรไม่เคยได้เลย บางที่ขอมาได้ 1-3 ล้านบาท แต่ได้ยินมาว่าแถว ๆ พื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ ได้เพิ่มขึ้นจากที่เคยได้ เป็นร้อย ๆ ล้านบาท บางแห่งได้ถึง 700 ล้านบาท" นายภูมิธรรมระบุ

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการตัดสินใจเช่นนั้นอยู่บนฐานอะไร ซึ่งเป็นประเด็นที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ นายชัยชนะ เดชเดโช สองรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้หยิบยกขึ้นมาหารือในที่ประชุม ครม. ด้วย เพื่อสะท้อนถึงปัญหาการกระจุกตัวของงบประมาณ

แม้ปัญหานี้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่จะมีการพิจารณาและอาจมีการปรับลดหรืองบประมาณในงบประมาณปี 2569 ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการ

สำหรับงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทนั้น นายภูมิธรรมชี้แจงว่า ขณะนี้เรื่องได้ถูกส่งกลับมายังกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง โดยพบว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เซ็นเอกสารไม่ตรงกับที่คีย์เข้าระบบของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ทำให้ต้องส่งเรื่องกลับมาพิจารณาใหม่ที่สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย

"ผมก็เป็นห่วงว่ากลัวจะไม่ทัน แต่ก็ยังมีเวลาเหลืออยู่" นายภูมิธรรมกล่าวแสดงความกังวล พร้อมเสริมว่าตนเองเพียงแต่รับทราบรายงานและไม่ได้เป็นผู้กำหนดขั้นตอนหรือตัวเลขงบประมาณ

เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการเกลี่ยงบประมาณท้องถิ่นในส่วนของงบกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ นายภูมิธรรมระบุว่าเป็นเรื่องของสำนักงบประมาณ แต่ตอนนี้ตนเองรับทราบเพียงว่า "ไม่เหมาะสม" และย้ำชัดว่า "อย่าเอาเรื่องพวกนี้ไปพูดให้มันเกินเลย เพราะเดี๋ยวจะหาว่ามาโจมตีกัน" เป็นการปฏิเสธความเชื่อมโยงกับการเมืองหรือการสแกนงบในพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย