ฟันธงสว.ล็อกโหวต กกต.จ่อชี้ชะตา3กลุ่มเป้าหมายก.ค.นี้

"แถลงการณ์ สว. สำรอง" จี้ กกต. เร่งเครื่องสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 หลังพบความไม่ชอบมาพากลและข้อกล่าวหาทุจริตจำนวนมาก คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนกลางชุดที่ 26 ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ กกต. และ DSI ได้ดำเนินการสอบสวนอย่างเข้มข้น รวบรวมพยานหลักฐานและเรียกผู้เกี่ยวข้องเกือบ 200 คนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา คาดสรุปผลภายในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้

ผลสอบสวนเบื้องต้นชี้เป้า 3 กลุ่มบุคคลที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ได้แก่:

• คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองบางพรรค: ผู้มีส่วนร่วมในการกระทำผิด
• นักการเมืองหรือบุคคลอื่น: ผู้ที่มิใช่ผู้สมัคร สว. แต่มีส่วนร่วมกระทำผิด
• สมาชิกวุฒิสภาปัจจุบัน: ผู้มีส่วนร่วมในการกระทำผิด
   

แถลงการณ์เน้นย้ำถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่ม สว. ที่เชื่อว่ามีการจัดทำ "โพยล็อกการลงคะแนน" อย่างเป็นระบบ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสุจริตเที่ยงธรรม และฝ่าฝืนมาตรา 76 และ/หรือ มาตรา 77 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. พ.ศ. 2561 กกต. มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 62 ที่จะต้องยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิผู้กระทำผิด

ประเด็นสำคัญที่แถลงการณ์เน้นย้ำคือ การที่คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิได้ดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่องและขอความเห็นชอบจาก กกต. มาโดยตลอด จึงไม่จำเป็นต้องตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยขึ้นมาพิจารณาสำนวนซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากจะเป็นการประวิงเวลาและอาจถูกตั้งข้อสังเกตว่า กกต. มีเจตนาหน่วงเหนี่ยวการลงโทษผู้กระทำผิด
 

นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้ กกต. ทุกท่าน บันทึกความเห็นส่วนบุคคลและรายละเอียดพฤติการณ์การกระทำผิดลงในคำวินิจฉัย เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปในชั้นศาล และเพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงหากมีการร้องขอตรวจสอบในภายหลัง

คดีนี้ถูกมองว่าเป็น "คดีประวัติศาสตร์" ที่จะจารึกถึงการทุจริตเพื่ออำนาจทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งจะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับอนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงกระบวนการแก้ไขปัญหาและธรรมาภิบาลทางการเมืองในอนาคต

ที่มา : แถลงการณ์สว. สำรอง คลิก