จับตา "ภูมิธรรม" รักษาการนายกฯหลัง"แพทองธาร"หยุดปฎิบัติหน้าที่

วงการการเมืองไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราว นับเป็นเหตุการณ์ที่พลิกผันอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น และการสอบสวนคดี "ฮั้ว ส.ว." ที่ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น

ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "แพทองธาร" หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว
คำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 36 คน เพื่อพิจารณาคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร โดยมติ 7 ต่อ 2 ของศาลได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว ซึ่งทำให้เธอเป็นนายกรัฐมนตรีอีกคนที่ต้องเผชิญกับคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จากศาล ถัดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี

ปมคดี: คดีนี้มีต้นตอจากข้อร้องเรียนของ สว. ที่เกี่ยวข้องกับคลิปเสียงสนทนาฮุนเซนที่เป็นประเด็น และการกระทำที่ถูกกล่าวหาว่าส่งผลกระทบต่ออธิปไตยของชาติ ซึ่งอาจเข้าข่ายการกระทำอันเป็นกบฏ

ไทม์ไลน์และคำขอโทษ: นายกรัฐมนตรีมีเวลา 15 วันในการยื่นคำชี้แจงและหลักฐานเพื่อโต้แย้งข้อกล่าวหา คาดการณ์ว่าการหยุดปฏิบัติหน้าที่อาจใช้เวลาประมาณ 45 วัน คล้ายกับกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งอยู่ที่ 38 วัน หลังมีคำสั่ง น.ส.แพทองธารได้กล่าวขอโทษประชาชนชาวไทยสำหรับความไม่สบายใจที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประเทศต่อไปในทุกบทบาท ก่อนหน้านี้ เธอยังได้แสดงออกถึงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตระหว่างการประชุม ครม.
 

บทบาท "รักษาการ" และการปรับ ครม. ที่กำลังจะเกิดขึ้น

จากคำสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะเข้ามารักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในเบื้องต้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งมีกำหนดเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้

คาดว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย จะเข้ามารับตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีแทน

ครม. ใหม่พร้อมเข้าเฝ้าฯ: คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งรวมถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในบทบาทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มีกำหนดเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้

เก้าอี้กลาโหมยังว่าง: ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังคงว่างอยู่ คาดว่าอาจเป็นเพราะข้อจำกัด 2 ปีสำหรับอดีตสมาชิกวุฒิสภาในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยมีผู้ที่มีศักยภาพอย่าง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ และ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ซึ่งจะมีคุณสมบัติครบในเดือนกันยายน

ปฏิกิริยาและผลกระทบทางการเมือง

ข่าวการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีส่งผลให้ ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นกว่า 20 จุด ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความรู้สึกโล่งใจหรือการคลี่คลายสถานการณ์สำหรับนักลงทุนบางส่วน

สถานการณ์นี้ถูกมองว่าเป็น "อุปสรรคเชิงบวก" สำหรับรัฐบาล เนื่องจากอาจลดความชอบธรรมของการประท้วงที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพราะกระบวนการทางกฎหมายกำลังดำเนินอยู่ และยังขัดขวางแผนการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านในขณะนี้

ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาก็ได้จับตาดูสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากนายกรัฐมนตรีเคยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้นำของพวกเขา จุดสนใจขณะนี้จึงอยู่ที่ระยะเวลาของกระบวนการทางกฎหมาย และเสถียรภาพโดยรวมของรัฐบาล

ความคืบหน้าคดี "ฮั้ว ส.ว." ที่ยังคงดำเนินอยู่

แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะยกคำร้องของนายนัฐพร โตประยูร เกี่ยวกับความผิดปกติในการเลือก ส.ว. โดยระบุว่าเป็นหน้าที่ของ กกต. และหน่วยงานอื่น แต่ประเด็นการเลือก ส.ว. ก็ยังไม่สิ้นสุดลง ยังคงมีคำร้องเรียนอื่นๆ ที่ยังดำเนินอยู่

กกต. สอบ 162 ส.ว.: คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังสอบสวนข้อกล่าวหา ส.ว. 162 คน จาก 7 รอบคำร้อง

DSI ลุยสอบซื้อเสียง-ฟอกเงิน: กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังสอบสวนข้อกล่าวหาการซื้อเสียงและฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับการเลือก ส.ว. โดยได้เรียกพยานสำคัญ 7 ปาก ที่มีธุรกรรมทางการเงินเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองและนักการเมืองใน 24 จังหวัด

รูปแบบการสอบสวน: การสอบสวนมุ่งเน้นไปที่สองรูปแบบหลัก: การโอนเงินอย่างเป็นระบบเพื่อว่าจ้างผู้สมัครในบางจังหวัด และความเชื่อมโยงทางการเงินกับ สว. ใน 24 จังหวัด

บทลงโทษและคำเรียกร้อง: หากพบว่ามีความผิด บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อเสียงอาจต้องโทษจำคุก ปรับ และถูกห้ามเล่นการเมือง 20 ปี ส่วน ส.ว. ที่ทุจริตอาจถูกเพิกถอนผลการเลือกตั้ง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เรียกร้องให้ กกต. ดำเนินการสอบสวนอย่างโปร่งใส

เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญในประเทศไทย โดยการสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและการสอบสวนการเลือก สว. ที่กำลังดำเนินอยู่ ได้สร้างภูมิทัศน์ทางการเมืองที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา.