posttoday

ศาลรธน.ไม่รับคำร้อง "ณฐพร" ภท.รอดยุบพรรค-ไม่เข้าข่ายล้มล้างฯ

01 กรกฎาคม 2568

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง "ณฐพร โตประยูร" ปมกล่าวหา ภูมิใจไทยล้มล้างการปกครอง ชี้ไม่เข้าเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ ภท.รอดพ้นคดียุบพรรค

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องของนายณฐพร โตประยูร ที่ยื่นขอให้วินิจฉัยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 โดยศาลฯ ให้เหตุผลว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวอยู่ภายใต้การตรวจสอบและดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายอื่น ๆ อยู่แล้ว
 

ต้นเรื่อง: การร้องเรียนการเลือก ส.ว. ที่ไม่โปร่งใส

นายณฐพร โตประยูร ผู้ร้อง ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยอ้างว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) (ผู้ถูกร้องที่ 1) และเลขาธิการ กกต. (ผู้ถูกร้องที่ 2) จัดการเลือก ส.ว. โดยไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม มีเจตนาช่วยเหลือพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 3) และกรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย (ผู้ถูกร้องที่ 4)

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวอ้างถึง ส.ว. อีกหลายราย รวมถึงนายวันชัย สอน (ผู้ถูกร้องที่ 6) และบุคคลอื่น ๆ (ผู้ถูกร้องที่ 5, 7-12) ว่ามีส่วนร่วมในการทุจริตเพื่อทบทวนการเลือก ส.ว. ส่งผลให้ได้ ส.ว. จำนวน 250 คน และสำรอง 2 คน ซึ่งเป็นการกระทำที่ทำให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศโดยมิชอบ และอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ผู้ร้องยังระบุว่า ผู้ถูกร้องที่ 1, 4, 6 และ 11 มีส่วนวางแผนและควบคุมกระบวนการทุจริต ส่วนผู้ถูกร้องที่ 4 และ 12 ดำเนินการตามแผนดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้ผู้ถูกร้องที่ 5 ปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ว. อย่างไม่เป็นกลาง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต และไม่เป็นไปตามกฎหมาย

สำหรับผู้ถูกร้องที่ 3 ถึง 9 ถูกกล่าวหาว่ามีการเชื่อมโยงและร่วมกันดำเนินภาพรวมเพื่อให้ได้มาซึ่ง ส.ว. เพื่ออำนาจปกครองประเทศด้วยวิธีการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลรธน.ไม่รับคำร้อง "ณฐพร" ภท.รอดยุบพรรค-ไม่เข้าข่ายล้มล้างฯ

การดำเนินการก่อนถึงศาลรัฐธรรมนูญ

นายณฐพรได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 แต่อัยการสูงสุดไม่ได้ดำเนินการภายใน 15 วัน จึงนำมาสู่การยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยขอให้ศาลฯ วินิจฉัยว่าการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึง 12 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ และขอให้สั่งเลิกการกระทำดังกล่าว รวมถึงสั่งให้รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยและ ส.ส. พรรคภูมิใจไทยที่อยู่ในรายชื่อตามสำนวนการสอบสวนหยุดปฏิบัติหน้าที่

ผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบปรากฏว่า การกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 ถึง 12 ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตการเลือก ส.ว. เป็นข้อกล่าวหาว่าเป็นการกระทำความผิดทางกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. และความผิดทางอาญา ซึ่งอยู่ภายใต้การตรวจสอบและดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว

ด้วยเหตุนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยเห็นว่าไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามหลักมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญในกรณีนี้
 

ข่าวล่าสุด

ไปรษณีย์ไทย รับนโยบาย พร้อมเป็นช่องทาง ชำระภาษีนำเข้าต่างประเทศ