แพทองธาร ลุ้น! ศาลรธน.ถกคำร้องสว.ถอดถอนนายกฯปมคลิปเสียงฮุนเซน
จับตาศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษาคดีสำคัญ กรณี36สว.ยื่นคำร้องถอดถอนนายกฯแพทองธาร จากปมคลิปเสียงฮุนเซน เปิด3ฉากทัศน์ความเป็นไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีตามปกติในวันนี้ หลังจากที่เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนได้มีการงดประชุมปกติ เนื่องจากจัดสัมมนาระดับนานาชาติ คณะกรรมการสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC) ซึ่งประเทศไทยดำรงตำแหน่งประธานในปี 2566-2568 โดยมีการจัดสัมมนาหัวข้อ "The Courts and the Protection of Human Rights" ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพมหานคร และเชิญผู้แทนจากศาลรัฐธรรมนูญประเทศสมาชิกเข้าร่วมทั้งแบบ On-site และ Online
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางส่วนเดินทางไปศึกษาดูงานในต่างประเทศและเข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาตามหลักสูตร "หลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย" (นธป.) ทำให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีการกำหนดนัดประชุมตุลาการในคดีอื่น ๆ อย่างเป็นทางการ
ส.ว. ยื่นคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติ "แพทองธาร"
อย่างไรก็ตาม ก่อนเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 กลุ่มสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นำโดย พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ได้ยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภาถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้วินิจฉัยว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4)(5) สาเหตุหลักมาจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับผู้นำกัมพูชา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าอาจขัดต่อหลักจริยธรรมร้ายแรง
คำร้องดังกล่าวมีความยาว 5 หน้า พร้อมทั้งมีคำขอให้ศาลสั่งให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีทันที ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 71 จึงเป็นที่จับตาว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาหรือไม่
ทั้งนี้ มีการคาดหมายว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาในการประชุม
ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้อนาคต"แพทองธาร"
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้จะส่งผลอย่างมากต่อสถานะของ น.ส.แพทองธาร และเสถียรภาพของรัฐบาล มี 3 ฉากทัศน์หลักที่เป็นไปได้ดังนี้:
1. ไม่รับคำร้อง – คดีสิ้นสุด
เหตุผลสนับสนุน:
- หลักฐานที่นำมาแสดงไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เช่น คลิปเสียงอาจได้มาโดยมิชอบ หรือไม่สามารถพิสูจน์ความถูกต้องได้
- เนื้อหาในคลิปไม่เข้าข่ายการกระทำที่ผิดจริยธรรมหรือกฎหมาย
- ศาลอาจมองว่าคำร้องมีลักษณะเป็นการกล่าวหาทางการเมืองมากกว่าเรื่องทางกฎหมาย
ผลลัพธ์: น.ส.แพทองธาร ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป และคดีจะถือว่ายุติลงทันที
2. รับคำร้อง – สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
เหตุผลสนับสนุน:
- เนื้อหาในคลิปมีลักษณะที่ศาลเห็นว่าเป็นการก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่ชัดเจน
- ศาลพิจารณาว่าคดีนี้ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรีอย่างรุนแรง และอาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยในการบริหารราชการแผ่นดิน
- มีการเทียบเคียงกับแนวทางการวินิจฉัยในอดีต ซึ่งศาลเคยสั่งให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
ผลลัพธ์: จะมีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีรักษาการแทน และรัฐบาลจะเข้าสู่ภาวะ "รักษาการ"
3. รับคำร้อง – ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
เหตุผลสนับสนุน:
- พยานหลักฐานที่นำเสนออาจยังไม่ชัดเจนหรือหนักแน่นพอที่จะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
- ศาลอาจต้องการให้โอกาสผู้ถูกร้องได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในกระบวนการไต่สวน
- เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางการเมืองในระยะสั้น และลดแรงกระเพื่อมทางสังคมที่อาจเกิดขึ้น
ผลลัพธ์: น.ส.แพทองธาร ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่จะอยู่ในสถานะ "ผู้ถูกร้อง" ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลในภาพรวม
การพิจารณาคดีนี้ของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดจากทุกฝ่าย และผลการวินิจฉัยจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทิศทางการเมืองไทยในอนาคตอันใกล้


