สมรภูมินิติสงคราม แพทองธาร สู่ Affect ปมร้อน “อังเคิล-หลานอิ๊งค์”
ย้อนรอยสมรภูมิ "นิติสงคราม" มุ่งเป้า "แพทองธาร" สู่ Affect คลิปเสียง “อังเคิล–หลานอิ๊งค์” ที่แม่ทัพหญิงสวมหัวโขน "นายกรัฐมนตรี" ต้องเผชิญ
โพสต์ทูเดย์พาย้อนรอย สมรภูมินิติสงคราม ที่มุ่งเป้าหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่รับตำแหน่ง ก่อนและหลังประเด็นขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา
ย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ นางสาวแพทองธาร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เส้นทางการเมืองของเธอไม่เพียงร้อนแรงจากแรงกดดันในสภา แต่ยังถูกขับเคลื่อนด้วยกระแสนิติสงครามด้วยการร้องเรียนในช่องทางกฎหมายอาญาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะเมื่อพายุลูกใหญ่ซัดจากกรณีคลิปเสียงหลุดการพูดคุยกับอดีตนายกกัมพูชา “ฮุน เซน”โพสต์ทูเดย์ได้รวบรวมเหตุการณ์ไว้ดังนี้
28 ส.ค. 2567 : นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อพิจารณาว่า แพทองธารยังคงถือหุ้นในบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ หลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (16 ส.ค. 2567) และโอนหุ้นออกหลังวันที่ 3 ก.ย.
ประเด็น : โอนหุ้นช้า เสี่ยงขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากความไม่ชัดเจนเรื่องการดำรงตำแหน่งในบริษัทเอกชน
กล่าวหา : อาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4),(5) และมาตรา 170 (5) ส่งผลให้สิ้นสุดตำแหน่งอัตโนมัติ
16 ก.ย.2567 : นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (อดีตสมาชิกวุฒิสภา) ยื่นร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ป.ป.ช. กรณีน.ส.แพทองธาร กรณีทำนิ้วเป็นสัญลักษณ์ "มินิฮาร์ต" ระหว่างใส่เครื่องแบบราชการ
ประเด็น: แม้จะยังเป็นเรื่องจริยธรรมและวินัยไม่ใช่คดีอาญาโดยตรง แต่ถือเป็นการเปิดทางให้ตรวจสอบฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
กล่าวหา : อาจขัดจริยธรรมและระเบียบทางราชการ
16 ก.ย.2567 : นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล ยื่นร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณี น.ส.แพทองธาร ร่วมงานบวชลูกนักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งกำลังจะมีเลือกตั้งท้องถิ่นในพื้นที่
ประเด็น: อาจเข้าข่ายใช้อำนาจโฆษณาหาเสียงโดยอ้อม หรือสร้างความได้เปรียบทางการเมือง
กล่าวหา : พ.ร.ป.เลือกตั้งท้องถิ่น ม.65, 66, 132
8 ต.ค. 2567 : นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นร้องเรียนกกต และ ป.ป.ช. กรณี แต่งตั้งผู้เคยต้องโทษจำคุก เช่น สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้าดำรงตำแหน่งใน ครม.
ประเด็น : หากศาลชี้ขาดว่าเป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาคดีทุจริตหรือผิดจริยธรรมร้ายแรง การแต่งตั้งจะเป็นโมฆะ และอาจย้อนกลับถึงตัวนายกรัฐมนตรี
กล่าวหา :ม.160(4), (5), 170(4)
24 มี.ค. 2568 : นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ร้องเรียน กมธ.พัฒนาการเศรษฐกิจ และกรมสรรพากร กรณีน.ส.แพทองธารใช้ “ตั๋วสัญญาใช้เงิน” ซื้อหุ้น SC Asset จากเครือญาติในปี 2559 มูลค่า 4.4 พันล้านบาท โดยยังไม่ชำระ จึงไม่มีภาษีเข้ารัฐ
ประเด็น : หากชี้ว่าธุรกรรมมีลักษณะอำพราง หรือไม่ชำระจริงตามสัญญา อาจถูกมองว่า “เลี่ยงภาษี–แสดงบัญชีทรัพย์สินเท็จ” นำไปสู่การยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ
ประมวลรัษฎากร :
-ภาษีเงินได้/รับให้กฎหมายแพ่ง
-นิติกรรมอำพรางม.160, ม.144 (กรณีโยงงบฯรัฐ)
25 เม.ย. 2568 : นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ (อดีต ส.ส. ปชป.) , นายเจษฎ์ โทณะวณิก ,นายสมชาย แสวงการณ์ (อดีต ส.ว.) ,ทนายนิติธร ล้ำเหลือ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงาน ป.ป.ช. กรณีคณะรัฐมนตรี, คณะกรรมาธิการงบประมาณ, ส.ส.-ส.ว. และเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี
ประเด็น : ร่วมกันแปรงบประมาณที่มีข้อผูกพันตามกฎหมาย (งบชำระหนี้ธนาคารของรัฐ 35,000 ล้านบาท) ไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลเฟส 1
กล่าวหา : มาตรา 144 รัฐธรรมนูญ ห้ามแปรญัตติงบประมาณผูกพันไปใช้งานอื่น
1 พฤษภาคม 2568 : กลุ่มภาคประชาชน “นิติชน–เชิดชูธรรม” ยื่นร้องเรียน ป.ป.ช. ผ่านช่องทางออนไลน์กรณีพฤติการณ์ของคณะรัฐมนตรีส.ส.-ส.ว. รวมถึงนายกรัฐมนตรี การแปรงบ 122,000 ล้านบาท (รวมหลายรายการ) ไปเป็น “งบกลางเพื่อแจกเงินดิจิทัล”
ประเด็น : เพื่อให้ ป.ป.ช. สอบสวน และหากมีมูล ให้ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณา
กล่าวหา : มาตรา 144 รัฐธรรมนูญ ห้ามแปรญัตติงบประมาณผูกพันไปใช้งานอื่น
ขณะนี้ ทางป.ป.ช.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ เช่น สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
Affect คลิปเสียง “อังเคิล-หลานอิ๊งค์”
18 มิ.ย. 2568 : นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ และนายชัยชนะ ทัศนีย์อมร นักเคลื่อนไหวการเมือง เดินทางเข้ายื่นร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองขอนแก่น
ประเด็น : ถ้อยคำในคลิปบางช่วงแสดงความเห็นต่อผู้บัญชาการทหารบกว่า “เป็นฝ่ายตรงข้าม” และเปิดเผยรายละเอียดการทูตบางส่วนที่อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายความมั่นคง
กล่าวหา : อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 4 มาตรา ได้แก่
มาตรา 116 (ยุยงปลุกปั่น),
มาตรา 119 (กระทำให้ประเทศเสี่ยงเสียเอกราช),
มาตรา 157 (ละเว้น-ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ),
มาตรา 164 (เปิดเผยความลับราชการ)
19 มิ.ย. 2568 : กลุ่มนักกฎหมาย “รักชาติ” นำโดย นายสมชาย ศรีสุวรรณ, นายคมสัน โพธิ์คง และ นายนิติธร ริมสุวรรณ เดินหน้ายื่นหนังสือต่อ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อให้สอบสวนและดำเนินคดีนายกรัฐมนตรี
ประเด็น : “ถ้อยคำของผู้นำประเทศในคลิปเสียง เป็นการกระทำที่บ่อนทำลายศรัทธาต่อสถาบันทหารและอาจเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรงตามมาตรฐานนักการเมือง”
กล่าวหา : สมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ ทำให้ประเทศเสียหายต่อความมั่นคง ขาดคุณสมบัติตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) ว่าด้วยความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ดำรงตำแหน่ง
20 มิ.ย.2568
- เครือข่ายประชาชนยื่นผู้ตรวจการฯ ภาคประชาชนในนาม “เครือข่ายพิทักษ์ศักดิ์ศรีชาติไทย” ได้รวมรายชื่อกว่า 5,000 รายชื่อ พร้อมยื่นหนังสือผ่าน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ
ประเด็น : พิจารณาว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายบั่นทอนขวัญกำลังใจของกองทัพ ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ ขาดความรอบคอบทางการเมืองและการทูต
-นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ร่วมกิจกรรมภาคประชาชนเพื่อเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง
ประเด็น : คลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรี และ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ และความมั่นคงต่ออธิปไตยของประเทศ
- พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ร่วมกิจกรรมกับกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ในการเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง
ประเด็น : พฤติกรรมดังกล่าวสะท้อนว่ารัฐบาลไร้ความสามารถ และเอื้อประโยชน์ต่ออริราชศัตรู ทั้งยังขัดบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน
แม้กรณีการร่วมกิจกรรมกับกลุ่มรวมพลังแผ่นดินนี้จะยังไม่เข้ากระบวนการทางคดีโดยตรง แต่ถือเป็นแรงกดดันเชิงสัญลักษณ์จากสังคมที่มีน้ำหนักมาก


