ภูมิใจไทยงัดข้อเพื่อไทย เก้าอี้มหาดไทยเดือด รัฐบาลสั่นคลอน!
ภูมิใจไทยขู่ถอนตัวจากรัฐบาล หากเพื่อไทยไม่ยอมให้คุมกระทรวงมหาดไทย "อนุทิน" ไม่ร่วมแถลงข่าวกับนายกฯ เป็นสัญญาณชัดเจน วิกฤตเก้าอี้กระทรวงสำคัญ จุดชนวนร้าวลึก
สถานการณ์การเมืองไทยกำลังเข้าสู่โหมดที่ท้าทาย เมื่อประเด็นปรับคณะรัฐมนตรี "แพทองธาร 2" กลายเป็นชนวนความขัดแย้งสำคัญระหว่างสองพรรคร่วมรัฐบาลหลัก เพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยมี กระทรวงมหาดไทย เป็นเดิมพันหลัก
จุดยืนที่แข็งกร้าวของภูมิใจไทย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า หากพรรคเพื่อไทยต้องการที่จะยึดกระทรวงมหาดไทยคืน พรรคภูมิใจไทยพร้อมที่จะถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
สัญญาณความไม่พอใจนี้ยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อนายอนุทินไม่ได้ยืนเคียงข้างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ในการแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นภาพที่เคยชินในอดีต นอกจากนี้ นายอนุทินยังได้ตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาว่า "ใครกันแน่ที่ต้องการกระทรวงมหาดไทย" พร้อมทั้งอ้างถึงข้อตกลงเดิมในการจัดตั้งรัฐบาล
ท่าทีเพื่อไทย: ความพยายามประนีประนอม
ในทางกลับกัน นายกฯแพทองธาร ได้ระบุว่ายังไม่มีการพูดคุยเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีกับนายอนุทิน และเน้นย้ำว่าที่ผ่านมาเป็นการหารือกันเรื่องเนื้องานและนโยบายเท่านั้น พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้รับทราบเรื่องการถอนตัวจากนายอนุทินเมื่อวันก่อนหน้า คำกล่าวนี้สะท้อนถึงความพยายามที่จะลดทอนความตึงเครียดหรืออาจเป็นกลยุทธ์ในการชะลอการเผชิญหน้าโดยตรง
เกมการเมืองเบื้องหลัง: การรวมเสียงและอำนาจต่อรอง
การเผชิญหน้าระหว่างสองพรรคไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เป็นการต่อสู้เชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองทางการเมือง มีการวิเคราะห์ว่าพรรคภูมิใจไทยอาจกำลังพยายาม รวบรวมเสียง สส. จากพรรคอื่น เพื่อเสริมสร้างฐานอำนาจของตนเอง ซึ่งรวมถึง...
- 17 เสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (จากกลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่นและอีกกลุ่ม)
- 8-9 เสียงจากกลุ่มนายสันติ พร้อมพัฒน์ (พรรคพลังประชารัฐ)
- 2 เสียงจากพรรคไทยสร้างไทย (ในพื้นที่อุดรธานี)
ภาพการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างแกนนำภูมิใจไทยอย่างนายอนุทินและนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทย กับนายสันติ พร้อมกับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ถูกตีความว่าเป็นการ แสดงพลังและศักยภาพในการดึงเสียงสนับสนุน
กลยุทธ์การตัดสินใจของภูมิใจไทย
การตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับ ครม. ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยยังคงอยู่ภายใต้อำนาจของนายอนุทินและนายเนวิน โดยยังไม่มีการนำเรื่องเข้าสู่มติพรรคอย่างเป็นทางการ ซึ่งเปิดช่องให้พรรคมีทางเลือกและยืดหยุ่นในการตัดสินใจ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการ "เปิดเกมขู่ถอนตัว" เพื่อวัดใจ "นายใหญ่" ของเพื่อไทย และเป็นการโยนประเด็นสู่สาธารณะ เพื่อสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาล หากเพื่อไทยยืนกรานที่จะยึดกระทรวงมหาดไทย ภูมิใจไทยจึงจะนำเรื่องเข้าสู่มติพรรคเพื่อดำเนินการถอนตัวต่อไป
ผลกระทบต่อพรรคร่วมและอนาคตรัฐบาล
สถานการณ์นี้ส่งผลให้ ส.ส. ของพรรครวมไทยสร้างชาติมีค่ามากขึ้น และอาจทำให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ แกนนำของพรรคมีอำนาจต่อรองที่สูงขึ้นในสมการทางการเมือง
หากภูมิใจไทยถอนตัวจริง เพื่อไทยจะต้องเผชิญกับภาระในการ จัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ถึง 8 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อย และอาจนำไปสู่ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยากจะคาดเดา
บทสรุป เกมวัดใจและเงาอำนาจ
การเมืองไทยในขณะนี้เข้าสู่ "เกมวัดใจ" ที่ทั้งสองฝ่ายต่างรู้ทันกัน และแต่ละก้าวเดินล้วนมีความหมายซ่อนอยู่ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึง "Shadow Power" หรือผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อเกมการเมืองนี้
อนาคตของรัฐบาล "แพทองธาร 2" จึงอยู่ในจุดที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่า นายกรัฐมนตรีจะสามารถฝ่าวิกฤตความขัดแย้งนี้ไปได้อย่างไร.