posttoday

เปิดข้อกล่าวหาคดี บงการฮั้ว สว. โยงใยบิ๊กพรรคภูมิใจไทย

17 มิถุนายน 2568

เปิดหนังสือกกต.แจ้งข้อกล่าวหา คดีฮั้ว สว.รายบุคคล ชี้พฤติกรรม กระบวนการชัด โยงผู้บริหารพรรคการเมือง ดึง สส.ปั้นผู้สมัคร ใช้ “โพยไขว้” ชี้นำลงคะแนน

ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตรวจสอบกรณีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ฮั้ว สว.) ได้ทำหนังสือแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหา ในกรณีของ “นาง ร.” ลงวันที่ 10 มิ.ย. 2568 โดยเนื้อหาหนังสือดังกล่าวระบุว่า

 

ด้วยในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน2557 ตามพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2557 มีเหตุอันควรสงสัยหรือความปรากฏว่า ท่านได้กระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกหรือร่วมกับกับบุคคอื่นกระทำการหรือรู้เห็นกับการกระทำของบุคคลอื่น

 

อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36  และมาตรา 77 (1) ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้การเลือก มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561มาตรา 62 คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 จึงจัดทำบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาเพื่อแจ้งให้ท่านทราบโดยสรุป คือ


เมื่อประมาณเดือน เมษายน 2567 ภายหลังจากมีการวางแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาของคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยที่มี นายภ.  เป็นแกนนำและผู้คิดริเริ่มในการวางแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2568  ที่มิได้เป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย 
 

ทั้งยังขัดต่อหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต่อมาได้จัดประชุมเพื่อวางแผนที่จะให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ปฏิบัติการเตรียมจัดหาผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอ ทุกอำเภอ ให้ครบทุกกลุ่มซึ่งจะให้มีการเตรียมการทั่วทั้งประเทศ

 

โดยคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยกำหนดจะให้เงินสดเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมด จากนั้นได้กำหนดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งและเลือกในแต่ละจังหวัด ตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และเมื่อผ่านเข้าเป็นผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดัะดับประเทศแล้ว คณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ว่า

 

ทีมผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ จำนวน 20 คน จะได้โควต้าที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา จำนวน คน โดยเมื่อทีมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ครบจำนวนวน 20 คน หรือมีจำนวนประมาณ 15 ถึง 20 คน แล้ว หัวหน้าทีมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นก็จะส่งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ซึ่งนำหมายเลขของผู้นั้นไปกำหนดไว้ในโพยรอบไขว้  เพื่อเป็นหลักประกันในการได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 1 คน

จากนั้นจะส่งรายชื่อ นามสกุล หมายเลข ประจำตัวประชาชน และหมายเลขประจำตัวผู้สมัครของผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ  ไปยังท่านกับพวกซึ่งเป็นทีมงานของนางสสร.โดยผ่านทางแอพพลิเคชันไลน์ เพื่อที่ท่านจะส่งต่อไปยัง นางสสร.และ

 

จากนั้น นางสสร. จะส่งต่อไปให้นายภ.และทีมงาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งท่านเป็นทีมงานตัวหลักของนางสสร. ในการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวของแต่ละทีมที่จัดส่งมา  เพื่อนำไปจัดทำโพย  ที่มีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่จัดทำไว้ล่วงหน้า หรือเลขชุด หรือบล็อกโหวต (โพยฮั้ว) ไปใช้ในการลงคะแนนในบัตรลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศในวันที่ 26 มิถุนายน 2567

 

ทั้งใน รอบลงคะแนนเลือกผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศภายในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งมีการกำหนดไว้ล่วงหน้าจำนวน 10 หมายเลข และรอบสอง คือ รอบลงคะแนนเลือกผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศในกลุ่มอื่นแต่ละกลุ่ม ในสายเดียวกัน (เลือกไขว้) มีการกำหนดไว้กลุ่มละ จำนวน 5 หมายเลข ทั้ง20 กลุ่ม 

 

นอกจากนี้ท่าน กับ นางสสร.และทีมงาน มีส่วนสำคัญในการจ่ายเงินของพรรคภูมิใจไทยเพื่อจัดการให้ได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาอันมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายในครั้งนี้ โดยมีการให้ไปรับเงินกับท่านที่สำนักงานใหญ่พรรคภูมิใจไทย ชั้น 4 ซึ่งห้องประชุมพรรคภูมิใจไทย และให้มีการลงลายมือชื่อรับเงินทุกครั้ง 

 

อีกทั้งท่านซึ่งเป็นทีมงานของนางสสร. ยังเป็นตัวหลักในการเก็บรวบรวมใบลาออกจากสมาชิกวุฒิสภา  ตามที่ผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นการล่วงหน้าโดยไม่ได้ลงวันที่  การกระทำดังกล่าวของท่านจึงเป็นการให้  เสนอให้เงิน หรือทรัพย์สิน  เพื่อจงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีมีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด  หรือเพื่อจูงใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ๆ ให้ผู้นั้นหมดสิทธิที่จะเลือกหรือได้รับเลือก   เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 77 (1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561

 

นอกจากนี้การที่ต่อมาผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศได้ทำการลงคะแนนในบัตรลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ  ตามที่ท่านกับพวกบงการ  หรือชี้นำดังกล่าว  อันเป็นการสมยอม  หรือช่วยเหลือกันในการลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่รับรู้กันมาก่อนเป็นการล่วงหน้า  

 

โดยผู้มีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศแต่ละคน  ที่มาประชุมขาดความเป็นอิสระในการลงคะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภา  ทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาไม่เป็นความลับ  ซึ่งขัดต่อหลักการพื้นฐานของการเลือกตั้งที่ต้องเป็นไปโดยลับและโดยเสรี  และเป็นการไม่ปฏิบัติตามวิธีการ  และเงื่อนไขในการแนะนำตัวที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด  โดยเหตุเกิดที่โรงแรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครนายก เป็นต้น 

 

การกระทำดังกล่าวของท่านจึงเป็นการสนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำของคณะกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย  อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 70 ประกอบมาตรา36 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ซึ่งมีผลทำให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศมิได้เป็นไปโดยสุจริต  หรือเที่ยงธรรมตามมาตรา 62  แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าว

 

คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน (ส่วนกลาง) คณะที่ 26 ขอแจ้งให้ท่านทราบด้วยว่า ตามบันทึกการแจ้งและรับทราบข้อกล่าวหาข้างต้น ท่านมีสิทธิที่จะให้หรือไม่ให้ถ้อยคำ หรือมีหนังสือแสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาภายในเวลาที่กำหนด และท่านมีสิทธิที่จะให้ทนายความ  หรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมรับฟังการชี้แจงแสดงหลักฐานแก้ข้อกล่าวหาได้จำนวนหนึ่งคน

 

หมายเหตุ : สำนวนดังกล่าวเป็นของ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็น “ผู้บริสุทธิ์” จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ข่าวล่าสุด

"ETTH" เตรียมไอพีโอ LiVE Exchange จำนวน 10 ล้านหุ้น ขยายลงทุนโครงการ Solar PPA