ปรับครม. เพื่อไทยชิงเก้าอี้มหาดไทย..สัญญาณใกล้แตกหักภูมิใจไทย

สถานการณ์การเมืองไทยที่กำลังร้อนแรง โดยเฉพาะประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และปมความขัดแย้งที่ส่อเค้าร้าวลึกระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีชนวนสำคัญมาจากการแย่งชิงอำนาจบริหารในกระทรวงมหาดไทย

ผลสำรวจของ “สวนดุสิตโพล” ที่ถูกนำเสนอในรายการ พบว่า ประชาชนให้ความสนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นอันดับหนึ่ง (42.70%) รองลงมาคือการปรับ ครม. (30.51%) และการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท (10.9%) สะท้อนว่าการเมืองภายในยังคงอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอย่างมาก

การปรับ ครม. ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 6 เดือน กลายเป็นประเด็นที่ทำให้รัฐบาลเผชิญแรงเสียดทานภายใน มีความเห็นไม่ลงรอยระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ สำนักงานทรัพยากรมนุษย์ของรัฐ (สทร.) และปัจจัยการต่อรองจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือครองกระทรวงมหาดไทยมายาวนาน

จุดแตกหัก “เก้าอี้ มท.” จุดเดือดเพื่อไทย – ภูมิใจไทย

แกนนำพรรคเพื่อไทยต้องการนำกระทรวงมหาดไทยกลับมาอยู่ภายใต้การบริหารของพรรคเพื่อใช้ขับเคลื่อนนโยบายในระดับพื้นที่ ซึ่งขัดต่อความต้องการของพรรคภูมิใจไทยอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้เกิดกระแสข่าวลือว่าพรรคภูมิใจไทยอาจถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล หากถูกยึดกระทรวงมหาดไทยจริง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เคยให้สัมภาษณ์ชัดเจนว่า “หากไม่ได้นั่งกระทรวงมหาดไทย ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน” ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ แกนนำอีกคนหนึ่งของพรรค ก็ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยมีทั้ง “เกียรติ” และ “ศักดิ์ศรี” ไม่อาจถูกกดดันทางการเมืองได้

เบื้องหลังสถานการณ์ความขัดแย้ง อาจมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองที่เรียกว่า “3 ลุง” ได้แก่ ลุงกำนัน (สุเทพ เทือกสุบรรณ), ลุงเนวิน (เนวิน ชิดชอบ) และลุงป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ที่อาจกลับมารวมพลังเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง ท่ามกลางความอ่อนแอของรัฐบาลปัจจุบัน

แม้จะมีรายงานว่ามีการพูดคุยระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร กับนายอนุทินเป็นการภายใน แต่ภายหลังการเจรจา นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่มีการพูดคุยเรื่องปรับ ครม.” ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงความไม่ชัดเจนและความตึงเครียดภายในรัฐบาล

ภาพฉากทัศน์ 3 ทางที่พรรคภูมิใจไทยอาจเลือกเดิน  

• ถอนตัวจากรัฐบาล พร้อมเปลี่ยนเกมการเมือง และอาจลามถึงการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี
• ขู่ถอนตัว เพื่อใช้ต่อรอง ตำแหน่งต่อไป
• ไม่มีการปรับ ครม. ซึ่งฝ่ายเพื่อไทยมองว่าเป็นไปไม่ได้

บทสรุปของการปรับ ครม. ครั้งนี้ จึงถูกมองว่า “อาจไม่จบสวย” โดยเฉพาะเมื่อพาดพิงถึงคดีฮั้วเลือก ส.ว. ที่มีชื่อของนุทินและเนวินถูกเชื่อมโยงอยู่ด้วย 

สถานการณ์จึงอาจบานปลายกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองครั้งสำคัญของรัฐบาลแพทองธารในไม่ช้า.

ข้อมูลประกอบเนื้อหาข่าว เนชั่นอินไซต์