อนุทิน รับเป็นบิ๊กเนมภูมิใจไทย กกต.ออกหมายเรียกคดีฮั้วเลือกสว.

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับหมายเรียกจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยยืนยันว่าได้รับหมายตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และจะเดินทางไปชี้แจงตามกฎหมายอย่างแน่นอน

“ผมนี่แหละ ‘บิ๊กภูมิใจไทย’ ที่ถูกหมายเรียก หมายส่งถึงบ้านที่บุรีรัมย์ ชัดเจน ไม่ปฏิเสธ พร้อมให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม แม้ยังไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด แต่จะมีทีมกฎหมายช่วยดูแล เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางกฎหมาย” อนุทินกล่าว พร้อมระบุว่า เรื่องนี้เป็น “เรื่องการเมืองที่คนในวงการรู้กันดี” แต่ไม่สามารถพูดอะไรมากในตอนนี้

นายอนุทินยังย้ำว่า กรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ภายในรัฐบาล และไม่มีผลกระทบต่อการทำงานร่วมกับนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า “ยังรักกันดี”

สำหรับหมายเรียกล็อตที่ 7 ของ กกต. มีรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกว่า 20 คน ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในพรรคภูมิใจไทย หรือมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิด อาทิ 
นายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย 
นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย 
นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร 
นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย  
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง 
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีต สส.ศรีสะเกษ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ 
นายธนยศ ทิมสุวรรณ หรือ อ๋อง ส.ส.เลย , ลูกชายของ นายก อบจ.เลย 
นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี ลูกชาย มนัญญา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ 
น.ส.บุณย์ธิดา สมชัย หรือ แนน สส.อุบลราชธานี โฆษพรรคภูมิใจไทย 
นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ลูกชายโกเกียรติ สตูล

ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า คณะกรรมการบริหารพรรคหลายรายได้รับหมายเรียกจริง เช่น นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ รองเลขาฯ พรรค ซึ่งเป็นหลานชายของตน และยืนยันว่าหลายคนในพรรคได้รับหมายในลักษณะเดียวกัน

ขณะที่แหล่งข่าวจากกรรมการบริหารพรรคเผยว่า “ได้รับหมายกันเกือบครบแล้ว บางรายมีข้อผิดพลาด เช่น ชื่อหน้าซองไม่ตรงกับเนื้อหา แต่โดยรวมไม่กังวล เพราะเชื่อมั่นว่าสามารถชี้แจงได้”

ผู้ถูกหมายเรียกหลายคนขอเลื่อนการเข้าชี้แจงออกไปก่อน เนื่องจากเพิ่งได้รับเอกสารหรือมีภารกิจต่างจังหวัด โดยย้ำว่าทุกคนพร้อมเข้าสู่กระบวนการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมาย.