ตรุษจีนระวังโจร สิงโตลวงโลกตรึม

ตุ้งแช่ ตุ้งแช่ แห่สิงโต ประเพณีของพี่น้องเชื้อสายจีน มาแว้วๆ

แน่นอนว่าปีนี้จะมีการทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษ พร้อมกับเดินทางไปเยี่ยมญาติหรือพาครอบครัวไปพักผ่อน ห้างร้านหลายแห่งก็ปิดทำการให้พนักงานลูกจ้างกลับบ้าน

ปัญหาฟืนไฟจึงกลายเป็นปัญหาลำดับต้นๆ ของเทศกาลตรุษจีนเกือบทุกปี เนื่องจากชาวไทยเชื้อสายจีนต้องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ และแน่นอนหากไม่ดูแลให้ดีพระเพลิงก็จะโหมเอาได้

อีกปัญหาหนึ่งที่อยู่กับทุกเทศกาล คือ โจรลักเล็กขโมยน้อย หรือบางรายขโมยใหญ่ขึ้นบ้านตอนเจ้าของบ้านไปเที่ยวตรุษจีนขนเอาของมีค่าหนีหายลอยนวลก็มีมานักต่อนักแล้ว ดังนั้นต้องไม่ประมาทช่วงปิดบ้านออกไปเที่ยว

ไม่ใช่เฉพาะโจรลักเล็กขโมยน้อยอย่างเดียว ประชาชนควรระมัดระวังการหลอกลวงเอาทรัพย์จากกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้วิธีแอบอ้างรูปแบบต่างๆ ในช่วงตรุษจีนด้วย เช่น การเรี่ยไรเงินทำบุญ โดยเฉพาะการเชิดหัวสิงโต ขอเงินตามบ้าน ห้างร้านต่างๆ

แก๊งที่หากินด้วยวิธีนี้รู้ว่าคนไทยชอบทำบุญ ยิ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนหากใครมาเรี่ยไรเงินก็ไม่อยากปฏิเสธ แก๊งที่หากินด้วยวิธีนี้ ก็รู้จุดอ่อนของคนไทยจึงใช้ช่องทางนี้รีดทรัพย์กันเป็นว่าเล่น

สิงโตที่มาเชิดไม่รู้อยู่สมาคมไหน ศาลเจ้าไหนกันแน่ มีวิชาตื๊อสุดยอด ตื๊อจนได้ตังค์ คนที่บริจาคบางครั้งก็ให้ไปเพื่อตัดความรำคาญ

แต่ถ้าสบเหมาะเคราะห์ร้ายเจอนักเชิดสิงโตเมายาเมากาวก็ถือเป็นคราวซวยเหมือนกรณีคนเชิดสิงโต 2 รายเมาสารเสพติดอยู่ในซอยโรงนมตรามะลิ ถนนสุขุมวิท หมู่ 8 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เชิดกันชนิดเมามัน ไม่เหน็ดไม่เหนื่อย

แถมยังต่อว่าชาวบ้านที่ไม่ให้เงินเรี่ยไร แต่ดูอาการแล้วมีลักษณะคล้ายกับคนเมายา ก่อนที่ชาวบ้านจะแจ้งตำรวจนำตัวไปสงบสติอารมณ์ พร้อมกับตรวจปัสสาวะ ตามคาดพบสารเสพติดทั้งคู่ และยอมสารภาพว่าเป็นศิษย์ศาลเจ้าพ่อแห่งหนึ่งย่านบางบอน ได้มาเชิดสิงโตเพื่อเรี่ยไรเงินซื้อยาบ้ามาเสพ เห็นไหมแบบนี้ก็มีด้วย

แต่การป้องกัน ปีนี้ตำรวจเขาก็เอาจริง พวกเรี่ยไร สวมหัวสิงโต ตุ้งแช่ๆ หลอกเอาเงินชาวบ้าน ก็ใช่ว่าจะมาทำเย็นใจหลอกเนียนๆ อีกต่อไป เพราะ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กำชับไว้ให้สายข่าวเฝ้าระวังการแฝงตัวแสวงหาผลประโยชน์ทำทีมาเรี่ยไรกลืนไปกับเทศกาล

“ปกติแล้วพวกเรี่ยไรนี่ไม่ได้เลย แต่พอถึงเทศกาลเราเองก็ผ่อนผันบ้าง ซึ่งก็ต้องใช้การข่าวคอยจับตาดูกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้ามาแฝงตัวแสวงหาผลประโยชน์ช่วงตรุษจีนนี้ ถึงจะสวมหัวสิงโตเราก็ตรวจค้นได้”

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ขึ้นอยู่กับประชาชนที่จะใช้วิจารณญาณว่า ควรจะให้เงินบริจาคกับเหล่าบรรดามูลนิธิที่เดินถือกล่องมาหรือไม่ เพราะบางทีการตั้งใจทำบุญอาจจะไม่ได้บุญก็เป็นได้

นอกจากนั้นปัญหาอาชญากรรมอื่นๆ ที่ทางตำรวจยังเป็นห่วงเป็นใยคือปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน และปัญหาจราจร โดย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำชับให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ตำรวจภูธร 19 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ดำเนินการตามมาตรการปราบปรามอาชญากรรมอย่างเต็มที่

โดยตำรวจสายตรวจจะเข้าดูแลธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี สถานประกอบการที่มีเงินทุนหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก สถานีบริการน้ำมัน สถานีขนส่ง บริเวณที่มีประชาชนจับจ่ายใช้สอย และสถานที่ที่ประชาชนเดินทางไปทำพิธีเซ่นไหว้ เพื่อป้องกันการเกิดคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์

จะเห็นได้ว่าตรุษจีนเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่มีทั้งอัคคีภัย ภัยจากโจรที่คอยหาโอกาสฉกชิงวิ่งราว ลักทรัพย์ จะซินเจียยู่อี่ทั้งที ก็ขอให้ซินนี้ฮวดไช้ เฮง เฮง เฮง ทุกครอบครัว !!!