'สุชาติ'ดินเนอร์ 18 สส.ท่ามกลางรอยร้าวพรรครวมไทยสร้างชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดกระแสความขัดแย้งภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 มิถุนายน 2568 ได้มีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรค รทสช. โดยได้นัดรับประทานอาหารร่วมกับ สส.ในกลุ่ม พร้อมยืนยันว่าขณะนี้กลุ่มมีสมาชิก สส.ครบ 18 คนอย่างแน่นอน

ก่อนหน้าการนัดรับประทานอาหารร่วมกันกลุ่มสส.ของนายสุชาติ เกิดความขัดแย้งภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายสุชาติ ออกมาเปิดเผยผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ว่า นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โทรศัพท์มาชักชวนให้ร่วมมือ “โค่น” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้นายเอกนัฏขึ้นแทน แม้ไม่ได้รับสายด้วยตนเอง แต่ทราบเนื้อหาการพูดคุยจากทีมงาน พร้อมย้ำว่า “สิ่งที่เขาต้องการคุย ผมรับไม่ได้” เพราะเกรงว่าจะถูกบันทึกเสียงและย้อนกลับมาทำร้ายตนภายหลัง
 

นายสุชาติยืนกรานว่า กรณี ส.ส. 21 คนของ รทสช. ร่วมลงชื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เรียกร้องให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีในโควตาพรรค โดยยึดหลัก “คุณสมบัติด้านความสุจริต” รายชื่อทั้งหมดเป็นของจริง แม้จะมี ส.ส. บางราย โดยเฉพาะจากพื้นที่เขต ออกมาปฏิเสธในภายหลัง เข้าใจว่าอาจถูกกดดันทางการเมือง หรือเกรงว่าจะถูกกล่าวหาว่ารับผลประโยชน์แลกกับการหักหลังพรรค ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอการลงชื่อวันที่ 6 มิ.ย. มีครบ คนวงในรู้กันหมดว่าใครลงลายมือชื่อหรือไม่ลงรายมือชื่อ

สถานการณ์ในพรรคเริ่มถึงจุดแตกหัก โดยมี “7 สัญญาณวิกฤต” และบรรยากาศภายในเต็มไปด้วยความตึงเครียด ส.ส. แบ่งขั้วอย่างชัดเจน ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรค 9 คน มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่เป็นกลุ่มของนายสุชาติ ขณะที่อีก 7 คนคือสายตรงของนายพีระพันธุ์ สถานการณ์ภายใน รทสช. ประกอบกับนัดรับประทานอาหารในกลุ่มสส.ที่สนับสนุนนายสุชาติ กำลังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง ซึ่งต้องจับตาว่าจะลงเอยอย่างไร และจะส่งแรงกระเพื่อมไปยังเสถียรภาพของรัฐบาลมากน้อยเพียงใด

ขณะที่นายพีระพันธุ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยาวนานกับนายเอกนัฏ ยืนยันว่าเป็นมิตรภาพที่เกิดจากความผูกพันและอุดมการณ์ ไม่ใช่ผลประโยชน์ส่วนตัว พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวลือว่านายเอกนัฏเคยพยายามล้มตนจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่าเป็นเรื่องเหลวไหล

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ได้ร่วมกับนายเอกนัฏก่อตั้งพรรคมาด้วยกันตั้งแต่ต้น โดยมีเป้าหมายชัดเจนที่จะสร้างพรรคเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อแสวงหาตำแหน่ง และยกย่องเลขาธิการพรรคว่าเป็นคนซื่อสัตย์ มุ่งมั่น และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะการขจัดปัญหาในภาคอุตสาหกรรมอย่างตรงไปตรงมา

นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความพยายามใส่ร้ายด้วยคำพูด โดยไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ หากมีหลักฐานจริงควรดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่สร้างกระแสทำลายความน่าเชื่อถือ พร้อมประกาศเดินหน้าทำงานเพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างไม่หวั่นไหว.