ปลายทางคดีฮั้วสว. เข้าสู่โค้งสุดท้ายกับบททดสอบ ศรัทธาต่อกกต.
คดีฮั้วสว.เดินทางสู่จุดตัดสินสำคัญ ไม่เพียงแค่การวินิจฉัยผิด–ถูก แต่สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของกกต. และอนาคตของกลไกตรวจสอบในกระบวนการประชาธิปไตยประเทศ
เมื่อเสียงนาฬิกานับถอยหลังสู่เส้นตาย 3 กรกฎาคม 2568 ดังใกล้เข้ามา คดีฮั้วการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ก็เดินทางเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ—ไม่ใช่แค่ของคดีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระที่ชื่อว่า "คณะกรรมการการเลือกตั้ง" หรือ กกต.
ในห้องประชุมเงียบงันของสำนักงาน กกต. มีรายงานว่า คณะกรรมการไต่สวนเตรียมส่งเรื่องให้เลขาธิการ กกต. นายแสวง บุญมี พิจารณานำเข้าที่ประชุมใหญ่ เพื่อให้กรรมการทั้ง 7 คนลงมติว่า ควรส่งรายชื่อ ส.ว. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าสู่การพิจารณาของศาลฎีกาหรือไม่
หากมองเพียงภายนอก เรื่องนี้อาจดูเป็นเพียงขั้นตอนปกติในกระบวนการตรวจสอบ แต่ภายใน กกต. กลับเต็มไปด้วยแรงสั่นสะเทือน — ทั้งจากเสียงเรียกร้องให้ยุติคดี เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และอีกด้านที่เรียกร้องให้เดินหน้าตามกฎหมายโดยไม่เกรงกลัวอำนาจหรือผลกระทบ
ไม่เพียงเท่านั้น วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการบางคนที่กำลังจะสิ้นสุดในช่วงเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม ยังซ้อนทับกับไทม์ไลน์ของคดีนี้อย่างน่าประหลาดใจ กลายเป็น “ปัจจัยซ้อน” ที่อาจมีผลต่อความกล้าหาญในการตัดสินใจ
เสียงภายใน กกต. เองก็ไม่เป็นเอกภาพ — มีรายงานว่าเสียงแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม:
- กลุ่มแรก 2 คน ที่ดูเหมือนจะมีแนวโน้มเอนเอียงไปในทิศทางหนึ่งซึ่งถูกเรียกว่า “Blue Connection”
- กลุ่มที่สอง 3 คน ยึดมั่นในหลักการทางกฎหมาย แยกแยะถูกผิดชัดเจน
- และกลุ่มสุดท้ายอีก 1 เสียง ที่ยังไม่แสดงท่าทีใด ๆ รอทิศทางการเมืองชี้นำ
ขณะที่กระแสข่าวลือว่า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. อาจพิจารณาลาออกก่อนหมดวาระ ก็ยิ่งทำให้ภาพการต่อสู้ภายในองค์กรดูเปราะบางยิ่งขึ้น
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (15–16 มิ.ย.) เราอาจจะได้เห็นฉากสำคัญของละครการเมืองเรื่องนี้ว่า กกต. จะเลือก “กล้าหาญ” เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเต็มรูปแบบ หรือ “ถอยหลัง” ภายใต้แรงกดดันและเวลา
แต่ไม่ว่าบทสรุปจะเป็นเช่นไร คดีฮั้ว ส.ว. ครั้งนี้ จะเป็นเสมือน “บททดสอบ” ของความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อองค์กรอิสระ และเป็นกระจกสะท้อนว่าประเทศไทยพร้อมแค่ไหน ที่จะเดินหน้าบนเส้นทางแห่งธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง.แนวทางที่เป็นไปได้:
- เดินหน้าเสนอศาลฎีกาตามขั้นตอน
- ถ่วงเวลาให้กระบวนการล่าช้า
- ยุติคดีเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางการเมือง
นายแสวง บุญมี ยืนยันว่า กกต. ไม่มีแรงกดดันภายนอกมาชี้นำ
เสียงจากอดีตผู้นำการเมือง
นายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
ได้ร่วมกันส่งหนังสือให้กำลังใจ กกต. โดยเน้นให้ปฏิบัติตามกฎหมายด้วยความกล้าหาญ
นายชวน ระบุว่า “ความจริงเป็นอย่างไร ผลต้องเป็นอย่างนั้น” พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนจับตาคดีนี้อย่างใกล้ชิด
ที่มาประกอบเนื้อหา เนชั่นอินไซต์


