เกาะติดปรับครม.อิ๊งค์2 จับตามนพรคุม Entertainment Complex

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังการประชุมครม.ประจำสัปดาห์ 4 มิถุนายน 2568 กำลังเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางกระแสข่าวลือและการคาดการณ์ถึงการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสำคัญในหลายกระทรวง ชี้ให้เห็นถึงการจัดทัพใหม่ของรัฐบาลเพื่อรับมือกับสถานการณ์และภารกิจที่กำลังรออยู่

แหล่งข่าวระบุว่า พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล เป็นผู้กำหนดทิศทางการปรับ ครม. ครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญคือการทวงคืนกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นกระทรวงหลักที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ถึงการนับถอยหลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่ในอนาคต

ตำแหน่งที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของพรรคเพื่อไทยมีดังนี้ 

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะหลุดจากตำแหน่ง 100%

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมีโอกาสสูงที่จะได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่
 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม คาดว่าจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม
เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนและความมั่นคง

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม อาจจะไม่ถูกย้ายไปกระทรวงมหาดไทยแล้ว 
เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้กระทรวงนี้คืนมา และนางมนพรยังมีภารกิจสำคัญในการดูแลโครงการ Entertainment Complex

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อาจไม่หลุดจากตำแหน่ง และมีแนวโน้มจะได้รับการปรับให้ดูแลกรมที่ใหญ่ขึ้น

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นางสาวจิราพร สินธุไพร งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  คาดว่าจะยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม เนื่องจากเป็นบุคคลที่นายกรัฐมนตรีให้ความไว้วางใจ

ในส่วนของพรรคกล้าธรรม มีรายงานว่าจะไม่ถูกโยกย้ายไปกระทรวงการคลัง และยังคงดูแลกระทรวงเกษตรต่อไป

ภูมิใจไทยขอดูแลสาธารณสุข-ยุติธรรม

ด้านพรรคภูมิใจไทย รับทราบเรื่องการปรับ ครม. แล้ว แต่ได้แสดงความต้องการให้ปรับทั้งคณะรัฐมนตรี มีข่าวลือว่าพรรคภูมิใจไทยต้องการกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรม แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้รับการตอบรับหรือไม่ ทั้งนี้ ยังมีประเด็นความขัดแย้งกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนปัจจุบัน (นายทวี สอดส่อง) ในหลายเรื่อง

รวมไทยสร้างชาติ: จับตาการเปลี่ยนแปลงภายใน

พรรครวมไทยสร้างชาติ คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีในสังกัดพรรคเช่นกัน แต่ยังไม่มีความชัดเจนในระดับของการปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้น ที่สำคัญคือ พรรคได้แก้ไขข้อบังคับพรรคให้การตัดสินใจเรื่องการร่วมรัฐบาลหรือการส่งชื่อรัฐมนตรีเป็นอำนาจของกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น

ขณะที่ น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะกระแสจากพรรคภูมิใจไทยที่ต้องการให้มีการปรับเกลี่ยตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ทั้งหมดว่า ขณะนี้ยังไม่ได้หารือกับพรรคภูมิใจไทยในประเด็นดังกล่าว และจะหารือเมื่อถึงเวลาจำเป็น เพราะไม่สามารถปรับ ครม. โดยไม่พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้

“ถ้าจะปรับ ก็ต้องคุยทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฯ เพราะเป็นเรื่องของทีมรัฐบาลทั้งชุด ตอนนี้อยู่ในช่วงการประเมินและคิดว่า ถ้าจะปรับ จะปรับอย่างไรให้ดีขึ้น ยังไม่ถึงเวลาคุยรายละเอียด” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้มีการส่งสัญญาณไปยังพรรคร่วมฯ แล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า "ยัง" เพราะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และแม้จะมีการพิจารณาในใจเรื่องการปรับ ครม. แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

สำหรับคำถามว่า การปรับ ครม. จะเป็นเพียงการปรับเฉพาะในพรรคเพื่อไทย หรือเป็นการปรับสลับกระทรวงขนาดใหญ่ นายกฯ กล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูด เพราะหากพูดตอนนี้อาจกระทบจิตใจบุคคลที่เกี่ยวข้อง และย้ำว่าข่าวเกี่ยวกับตำแหน่งต่าง ๆ ที่หลุดออกมานั้น ไม่ได้มาจากตนเอง

เมื่อถามถึงการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก่อนปรับ ครม. นายกรัฐมนตรีระบุว่า หากจะมีการปรับจริง ก็ต้องมีการหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นและคำปรึกษา ไม่ใช่ตัดสินใจโดยไม่แจ้งล่วงหน้า

ต่อคำถามว่าขณะนี้เห็นควรจะมีการปรับ ครม. แล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “อยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ในใจ” ส่วนกระแสข่าวว่ามีพรรคร่วมส่งสัญญาณเรียกร้องให้ปรับ ครม. นายกฯ ระบุว่า “ยัง” เพราะยังไม่มีการสอบถามไปอย่างเป็นทางการ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแรงกดดันจากระยะเวลาที่รัฐบาลเหลือเพียง 2 ปี และจำเป็นต้องเร่งสร้างผลงาน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “เราควรใช้เวลาที่เหมาะสม อย่าเร่ง เพราะหากเร่งแล้วปรับไม่ดี ก็อาจไม่เป็นผล”

สุดท้าย นายกฯ ระบุว่า การตัดสินใจจะดูภาพรวมของรัฐบาลทั้งหมด และยังไม่ได้กำหนดว่าจะให้แต่ละพรรคร่วมเป็นผู้เสนอชื่อหรือจัดสรรเอง โดยขอให้รอให้ชัดเจนก่อน พร้อมย้ำว่า “ยังไม่มีการปรับ ครม. ในขณะนี้”