"เสรีพิศุทธิ์-ชาญชัย" ยื่นหลักฐาน "คดีชั้น 14" ให้ศาลฎีกา

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย, นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.ปชป. ,นายสมชาย แสวงการ อดีต สว.และอดีตระธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ,นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ,และนายนิติธร ล้ำเหลือ 

เดินทางไปยื่นคำร้อง ขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริง โดยนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน นี้

 

 โดยนายชาญชัย ระบุว่า วันนี้ เดินทางมาที่ศาลฎีกาฯ เพื่อส่งมอบเอกสาร หลักฐานประกอบคำร้องเดิมที่ตนเองเคยยื่นต่อศาลฎีกาฯ เกี่ยวกับการรักษาตัวชั้น 14 ของนายทักษิณ และศาลมีคำสั่งรับคำร้องไว้ไต่สวนเองตามอำนาจศาล โดยเอกสารที่นำส่งและอ้างไว้ในคำร้องเดิมหน้า 14 ประกอบด้วย

1. สำเนาเอกสารรายงานผลการตรวจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

 

2. สำเนาเอกสารคณะกรรมาธิการสิทธิมนุยยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภภา

 

3.สำเนาเอกสารมติคณะกรรมการแพทยสภาที่ได้มีการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รับรองการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร

 

4.สำเนาหนังสือ ปปช. วันที่ 16 ธันวาคม ของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ปปช.

 

5. เอกสารคำให้การของ พล.ต.อ. เสริพิทธ์ เตมียเวส

 

6. เอกสารคำให้การต่อ ปปช. ของผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ 2 ฉบับ

 

เมื่อศาลไม่ได้นัดไต่สวน ตนเองในฐานะผู้ร้อง เพราะมีคำสั่งว่าตนเองไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง และไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้

 

ทำให้ในวันนี้จึงนำหลักฐานทั้งหมด มาส่งมอบให้เพื่อให้ศาลได้พิจารณา เพื่อเป็นประโยชน์แห่งคดี เพราะเป็นหลักฐานที่จะแสดงให้เห็นว่านายทักษิณ ไม่ได้ป่วยจริง และ สมคบกับพวกหลอกลวงประชาชน และขอให้ศาลออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาไต่สวน 

โดยนายชาญชัย ยืนยันว่า กระบวนการทั้งหมดไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่เป็นกระบวนการยุติธรรมที่ถูกทำลาย และมีกระบวนการไปช่วยนายทักษิณที่เป็นกระบวนการใหญ่มาก ทำให้ความน่าเชื่อถือทางนิติรัฐนิติธรรมหายหมดเลย ไปกระทบกับศก.ด้วย 

นายสมชาย ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการ กสม. ได้สอบเรื่องนี้ไปทั้งหมด 12ครั้ง และเชิญทุกคนที่เกี่ยวข้องของกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ จำนวนมากมาสอบ

 

รวมถึงส่วนของแพทย์ตำรวจ และ กสม. ผู้แทน ปปช. โดยทั้งหมดเป็นเอกสารที่ กมธ.สอบไปแล้วเห็นว่ามีความไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 222แผ่น จึงได้ส่งให้ ปปช.ดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

 

โดยจากการสอบของ กมธ. ทำให้ทราบว่า ข้อพิรุธมากมาย โดยที่ไม่รู้ว่านายทักษิณป่วยเป็นอะไรและที่ผ่านมา ไม่สามารถเรียกตรวจสอบ เอกสารใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล กล้องวงจรปิด ชั้น14 เวชระเบียนกว่า 600 แผ่น ใบรายงานจากผู้คุม ที่ต้องรายงาน 24 ชม.ตลอด 181วัน ได้จึงถือว่าเป็นสิ่งที่เป็นพิรุธ 

 

ดังนั้นตนเองจึงอยากให้ศาลออกหมายเรียก เวชระเบียน และใบเสร็จรับเงินที่จ่ายเงินทุก7วันว่ารักษาอะไรบ้าง ป่วยวิกฤต ป่วยรักษาตัวอย่างไร มาทำก่รตรวจสอล แล้วเชื่อว่าจะพบข้อเท็จจริงทั้งหมด

 

รวมถึงอยากให้ออกหมายเรียก นพ.ประสิทธิ วัฒนาภา ซึ่งเป็นคณะกรรมการลงมติแพทยสภา มาไต่สวนด้วย

 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เหตุผลที่ตนเองต้องมายุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ เพราะรักประเทศชาติ และประชาชน จะปล่อยให้ นายทักษิณ ย่ำยีประเทศต่อไป บ้านเมืองมีปัญหาแน่ จึงต้องมาทำความจริงให้ปรากฎ 

 

โดยตนเอง ถือเป็นประจักษ์พยาน ที่เห็นว่าทักษิณไม่ได้ป่วย เพราะศาลไม่ได้เห็น ศาลต้องดูจากพยานและหลักฐานต่างๆเท่านัเน

 

พร้อมเล่าว่า ตนเองเคยนายทักษิณ ที่ชั้น 14 โรงะยาบาลตำรวจ โดยมีการนัดหมายผ่านแชทข้อความไลน์  ถึง 2 ครั้ง และตนเองก็ไปตามนัด เมื่อไปถึงจะมีคนมารับที่ชั้นใต้ดิน ชื่อ ธวัชชัย ซึ่งชั้นใต้ดิน ไม่มีแม้กระทั่ง ยาม 

 

จากนั้น ธวัชชัย ก็พาตนเองเดินไปเยี่ยมทักษิณ ซึ่งครั้งแรก ได้ไปเยี่ยม 30นาที ครั้งที่สองเยี่ยม 1ชม. ตนเองไปรอตรงห้องรับแขก ข้างห้องนอน ซึ่งคุณทักษิณก็ดูท่าทีสบายๆ ใส่เสื้อเชิ๊ต เกงขาสั้น รองเท้าแตะ ไม่มีปอกคอ ไม่มีสายน้ำเกลือใดๆทั้งสิ้น

 

และครั้งที่2 ก็เข้าไป คุยเรื่องการเมือง เรื่องส่วนตัว ซึ่งสภาพของคุณทักษิณ ไม่ได้มีสภาพเหมือนคนป่วย

 

จากการเข้าเยี่ยมดังกล่าว ยืนยันได้ว่า คุณทักษิณไม่ได้ป่วย เมื่อไม่ได้ป่วยตนเองก็มานั่งจินตนาการว่า วันอื่นๆก็คงมีคนอื่นมาเยี่ยม เหมือนกัน ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ที่ คุณทักษิณ ใช้ โรงพยาบาลเป็นสถานที่รับแขก ให้คนที่ไว้ใจมาเยี่ยม เพื่อหารือเรื่องธุรกิจและเรื่องการเมือง

 

ดังนั้น ตนเองจึงมีความจำเป็นต้องมาเปิดเผยเรื่องนี้ โดยยืนยันว่า ตนเองมีหลักฐานไลน์ แชทข้อความที่พูดมายื่นให้กับศาลด้วยเช่นกัน และ วันที่ 13 มิ.ย. เชื่อว่านายทักษิณจะไม่เดินทางมาที่ศาลด้วยตัวเอง