'สุชาติ' ไม่ไกล่เกลี่ย ลั่น! เกินเยียวยา ปม ฟ้อง 'รักชนก-สหัสวัต'

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฟ้อง 2 สส.พรรคประชาชน คือ  น.ส.รักชนก  ศรีนอก หรือ ไอซ์ สส.กทม. และ นายสหัสวัต  คุ้มคง สส.ชลบุรี  ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท

 

จากกรณีที่มีการพาดพิงถึงสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้าซื้ออาคาร Skyy9 ย่านพระราม 9 ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในราคาประมาณ 7,000 ล้านบาท

 

นายสุชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นไต่สวน ว่า เหตุผลที่ตนฟ้องหมิ่นประมาทเพราะต้องการพึ่งพากระบวนการยุติธรรม เนื่องจากมองว่า การที่จะเป็นผู้แทนประชาชน หรือเป็นสส.จะตั้งข้อสังเกตุข้อสงสัยก็มีช่องทางในการตรวจสอบนักการเมืองอยู่แล้ว โดยให้ยื่นทาง ปปช.เพื่อทำการตรวจสอบได้หมดหรือถ้าตั้งข้อสังเหตุแล้ว ยังสงสัย ก็ต้องถาม 

 

แต่หากมีการกล่าวหากันทางสื่อโซเชียล หรือสื่อมวลชนต่างๆ ใส่ร้ายป้ายสี เหยียดหยาม ทั้งตัวเราเองและครอบครัว บุพการี ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการกล่าวหากันลอยๆไม่มีหลักฐาน

 

เป็นการกล่าวหาปรักปรำให้เสียชื่อ ก็ต้องพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมว่า สิ่งคุณกล่าวหาทั้งหมดนั้นจะต้องเป็นบรรทัดฐานว่าการจะเป็นสส. หรือเป็นผู้แทนควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้ 

 

“การที่จะกล่าวหาคนลอยๆ คุณเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย เดินทางมาที่ศาล ผมก็เสียเหมือนกัย เสียเวลา เสียเงินเสียทอง แต่สิ่งที่ผมเสียมากกว่าเขาคือ เสียเกียรติยศ ศักดิ์ศรี เสียไปถึงความเสียใจของคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว มันหนักกว่าเขาเยอะมาก จึงต้องมาเบิกความด้วยตัวเอง”

 

นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่มาเบิกความด้วยตนเอง เพราะทุกอย่างอยู่ในความเป็นจริง ในหัวใจเรา ไม่ต้องมานั่งท่อง

 

มันไม่ใช่เรื่องจริงในการกล่าวหาว่าตนเองไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการซื้อตึกข้อเท็จจริงเป็นเรื่องของ พ.ร.บ.การลงทุนของประกันสังคม ไม่ได้เกี่ยวกับตน

เพราะอำนาจรัฐมนตรีให้กรอบนโยบายได้ แต่ไม่สามารถลงไปก้าวก่าย หรือก้าวล่วง ชี้นำได้ เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย

 

ส่วนกังวลใจในคดีความหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ก็มาขอความเป็นธรรม พึ่งพากระบวนการยุติธรรม โดยต้องดูหลักการเบื้องต้นว่าคืออะไร และที่กล่าวหาทั้งหมดต้องพิสูจน์ด้วยเอกสาร ซึ่งที่ตนเองทราบ เขากล่าวว่า เขาทำงานตรวจสอบ

การมาฟ้องกันเป็นเรื่องที่เสียเวลาแต่ตนเองมองว่า ตนเองเสียเวลามากกว่า ตนเองเสียอะไรหลายอย่างมากกว่าทั้งถูกย่ำยีศักดิ์ศรี ถูกใส่ร้ายไปแล้ว ก็จะต้องให้ศาลเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนชาวไทย มาพึ่งพากฎหมายประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของเราเพื่อกู้ศักดิ์ศรีของเรา

 

เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้ว่าข้อเท็จจริงคือ ในวันที่เค้าใส่ร้ายอยากให้เขานึกถึงครอบครัวเขาครอบครัวเรา 

 

เขากล่าวหาเราใส่ร้ายเราตามสื่อต่างๆ จะให้เราไปพึ่งพาสื่อมวลชนได้ เพราะสื่อมวลชนทุกช่องเวลาที่เราไปชี้แจงเขาก็ไม่ฟังเรา

 

"วันนี้ผมจะพิสูจน์ที่ศาลว่าสิ่งที่เขากล่าวหาตนใส่ร้ายผมผ่านสื่อต่างๆและให้สื่อจงสำนึกเอาไว้ว่า การชี้นำ หรือการให้ข่าวทางสื่อมวลชนต่างๆคุณต้องมีข้อเท็จจริง  ถ้าเป็นข้อสงสัยก็ต้องยื่นกระบวนการตรวจสอบ ผมเป็นผู้แทนมันสามารถตรวจสอบได้ทุกช่อง"

นายสุชาติกล่าว

 

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า เขาจะอภิปรายในสภา หรือกล่าวหาตนในสภาก็สู้กันในกระบวนการของสภา แต่ถ้ากล่าวหากันในโซเชียลหรือกล่าวหากันผ่านสื่อมวลชนไม่สามารถที่จะไปตามแก้ปัญหาในโซเชียลเขาได้เพราะว่าตนไม่ได้มีสิ่งที่สร้างมาบนโซเชียลขนาดนั้น ตนจึงต้องพึ่งพาศาล ยุติธรรม และต้องพิสูจน์และความยุติธรรมคืออะไร

 

ทั้งนี้ อยากให้สื่อมวลชนเข้าใจเพราะที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยฟ้องร้องใครมาก่อน ตั้งแต่เกิดมาครั้งนี้เป็นการมาศาลครั้งแรก 

ที่ผ่านมาหากใครเข้าใจผิดหรือสงสัยในตัวของตนก็จะเข้ามาถามซึ่งตนก็สามารถชี้แจงได้ แต่ในกรณีนี้ไม่ถามแต่กล่าวหา

 

ส่วนเรื่องค่าเสียหายเป็นบรรทัดฐานในการฟ้องร้องที่จะต้องมี แต่เราอยากจะให้มองผลลัพธ์ว่าสิ่งที่คุณทำมันต้องให้ศาลพิสูจน์ว่าวันหลังอย่าทำแบบนี้ อยากให้ สื่อมวลชนได้เห็นว่าสส.คนดังกล่าวกล่าวหาคนไปทั่วแม้กระทั่งเพื่อนบ้านเราเอง จนเขาตำหนินักการเมืองไทย 

 

“นิสัย หรือจะพูดแรงๆก็คือสันดาน คือนิสัยมันแก้ไม่ได้จึงต้องมาจบที่ศาล” 

 

 ส่วนกรณีที่ว่าจะมีการไกล่เกลี่ยหรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า

"เกินเยียวยาสส.คนนี้เกินเยียวยาที่จะไกล่เกลี่ย คนคนนี้ต้องให้เห็นถึงความที่ใส่ร้ายคนอื่นแล้วจะเดือดร้อนยังไง"

 

สุดท้ายต้องให้เขารู้ว่าผลลัพธ์คืออะไร ไม่ใช่ใช้โซเชียลออกข่าวแล้วตัวเองถูกคนเดียว มันไม่ถูกต้อง จึงฝากสื่อมวลชนทุกช่องด้วยว่า ตนเองไม่ได้มีปัญหากับสื่อมวลชน และการนำเสนอข่าว

 

แต่ควรดูคุณภาพของสส.ด้วยว่ามีความสามารถหรือมีจิตวิญญานอย่างไร ย้ำ ไม่มีทางไกล่เกลี่ยแน่นอนเพราะเกินเยียวยา 

 

“เราควรไปดูว่า สส.คนนี้ทำอะไรให้ประเทศชาติบ้านเมือง ทำอะไรในหน้าที่ สส.บ้าง และคุณควรสำนึกตัวเองได้แล้วว่าคุณทำอะไรเกินขอบเขต กล่าวหาอะไรเกินขอบเขต” 

นายสุชาติ กล่าว

ที่มา : เนชั่น