กกต. ยกคำร้องเลือก สว.บุรีรัมย์ กลุ่มสื่อฯ ไร้พรรคหนุน

เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยยกคำร้องการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับจังหวัดบุรีรัมย์ กรณีก่อนการประกาศผลการเลือกนายบุรี ราดแก้ว นายวิเชียร เศษสุวรรณ นายไสว ชนิดนอก น.ส.เบญจมาศ อุมมะลี น.ส.ปริญญา ดาบรัมย์ นายถาวร ภูมิไธสง และนายบุญร่วม แตบไธสง ผู้ถูกร้องที่ 1-7 ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกระดับจังหวัด กลุ่มที่ 18 สื่อสารมวลชน ถูกร้องว่ากระทำการให้สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครเข้ารับเลือกเป็น สว. หรือถอนการสมัคร หรือจูงใจให้ผู้สมัคร หรือผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้ผู้ใด ตามมาตรา 77 (1) และมาตรา 81 

นอกจากนี้ ยังถูกร้องเรียนว่าผู้ถูกร้องที่ 1-7 รู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิลงสมัครรับเลือก เนื่องจากไม่ใช่บุคคลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี ตามมาตรา 11 (18) และ 74 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.2561

กกต. ระบุว่า จากการพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและถ้อยคำของผู้ร้อง เห็นว่าเป็นเพียงข้อสันนิษฐานที่ไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน อีกทั้งผู้ถูกร้องทั้งหมดให้การสอดคล้องกันว่าสมัคร สว. ด้วยความสมัครใจและใช้เงินส่วนตัว โดยไม่มีการจัดตั้งกลุ่มหรือว่าจ้างให้สมัคร และพยานที่ถูกไต่สวน 1-28 ราย ซึ่งเป็น ผอ.การเลือกระดับอำเภอ ผู้สมัคร สว.ระดับอำเภอ ผู้นำชุมชน และประชาชนใน จ.บุรีรัมย์ ให้การสอดคล้องกันว่าไม่เคยทราบข่าวการจัดตั้งกลุ่มหรือการว่าจ้างให้สมัคร สว. และไม่พบว่ามีผู้นำชุมชนนำบุคคลมาสมัคร อีกทั้งไม่ปรากฏพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยันการกระทำผิดกฎหมายตามข้อกล่าวหา จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าผู้ถูกร้องที่ 1 ถึง 7 กระทำการฝ่าฝืนมาตรา 77 (1) และมาตรา 81

ในส่วนข้อร้องเรียนว่าผู้ถูกร้องที่ 1-7 ไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัครนั้น จากการไต่สวนผู้ถูกร้องที่ 1-7 ยืนยันว่าตนเองมีคุณสมบัติ เช่น ผู้ถูกร้องที่ 1 เป็นผู้ช่วยโฆษกมัคทายกวัดมากว่า 11 ปี ผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นหมอสู่ขวัญและปราชญ์ชาวบ้านตั้งแต่ปี 2548 ถึงปัจจุบัน ผู้ถูกร้องที่ 3 เป็นนักร้องหมอลำมากว่า 20 ปี ผู้ถูกร้องที่ 4 และ 5 เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารด้านสาธารณสุขตั้งแต่ปี 2554 ผู้ถูกร้องที่ 6 ประกอบอาชีพรับจ้างถ่ายภาพโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงมากว่า 10 ปี และผู้ถูกร้องที่ 7 ประกอบอาชีพรับจ้างรถแห่ประชาสัมพันธ์นานกว่า 10 ปี

พยานประกอบ 1-12 ราย ซึ่งเป็น ผอ.การเลือกระดับอำเภอใน อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.คูเมือง และ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ให้การสอดคล้องกันว่าได้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามในการสมัคร สว. ตามแนวทางที่สำนักงาน กกต. กำหนด จากใบสมัคร (สว.2) ข้อมูลแนะนำตัว (สว.3) หนังสือรับรองความรู้ความเชี่ยวชาญฯ (สว.4) รวมถึงมีหนังสือถึงหน่วยงานสนับสนุนการตรวจสอบคุณสมบัติฯ ของผู้สมัครทุกคน ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกร้องที่ 1-7 ไม่มีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามจึงได้รับสมัคร และ ผอ.การเลือกระดับอำเภอ ได้ประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกแยกเป็นรายกลุ่ม ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 21 ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามกรอบหน้าที่และอำนาจของ ผอ.การเลือกระดับอำเภอ เชื่อได้ว่ากรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกร้องที่ 1-7 มีความรู้ความเชี่ยวชาญประสบการณ์การทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี และไม่ปรากฏพยานหลักฐานอื่นที่ยืนยันว่ามีการกระทำฝ่าฝืนตามข้อกล่าวหา