"อนุทิน" พูดถึง "บิ๊กเกรียง"วันที่เพื่อนรับทราบข้อหาคดีฮั้วสว.
"เพื่อนก็คือเพื่อน งานก็คิองาน" ย้อนสัมพันธ์ อนุทิน-พล.อ.เกรียงไกร รองประธานสว.คนที่1 เข้าพบกกต.ตามหมายเรียกคดีฮ้วเลือกสว. ยันไม่เกี่ยวข้องกับภูมิใจไทย
พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทราบข้อกล่าหาและชี้แจงคดีฮั้วเลือกสว. หลังจากที่กกต.มีหมายเรียกลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568
พล.อ.เกรียงไกร เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้มารับทราบข้อกล่าวหาโดยเจ้าหน้าที่มีการซักถามตามขั้นตอนปกติ
ย้ำว่า “รู้สึกโล่งใจ” และ “ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร” กับข้อกล่าวหา
พล.อ.เกรียงไกร ได้รับการจับตาจากสังคมเพราะมีความสนิมสนมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ความสัมพันธ์ระหว่างนายอนุทินกับพล.อ.เกรียงไกร อยู่ในระดับของคำว่า "เพื่อน" ที่รู้จักกันมานานเคยศึกษาในหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 61 ร่วมกัน
ก่อนที่ พล.อ.เกรียงไกร จะลงสมัครเป็นสว.ได้รับการแต่งตั้งจากนายอนุทินให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2566
ตลอดเวลาที่ผ่านมา นายอนุทินยืนยันว่าความสัมพันธ์กับพล.อ.เกรียงไกร เป็นเพียงเพื่อนเท่านั้น และไม่ได้มีบทบาทในการสนับสนุนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง สว. หรือการดำรงตำแหน่งในวุฒิสภา โดยระบุว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกตั้ง ส.ว. และไม่ได้มีการวางแผนเพื่อควบคุมวุฒิสภาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังพล.อ.เกรียงไกร ได้รับเลือกเป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 และมีบทบาทสำคัญในวุฒิสภา โดยมีความเชื่อมโยงกับพรรคภูมิใจไทยในแง่ของความสนิทสนมกับนายอนุทิน แต่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคหรือมีบทบาททางการเมืองโดยตรงกับพรรคภูมิใจไทย
ขณะที่นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีพล.อ.เกรียงไกรเข้าพบกกต.ตามหมายเรียกคดีฮั้วเลือกสว.ว่า "เพื่อนก็เพื่อน งานก็งาน" พร้อมปฎิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าพรรคภูมิใจไทยเกี่ยวข้อกับเรื่องฮั้วเลือกสว. โดยระบุว่าเป็นเรื่องไร้สาระและยืนยันว่าพรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกสว.
"เราไม่เคยทำอะไรผิด สมาชิกพรรคทุกคน ทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร และในฝ่ายนิติบัญญัติก็ทำหน้าที่ สส. เขาก็ทำงานในส่วนของเขา ขอย้ำว่าไม่ได้ทำอะไรผิด" นายอนุทินกล่าวและเห็นว่ากรณีมีการกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยล้มล้างการปกครอง เป็นเรื่อง"ฝันกลางวัน"


