


16+

















“แพทองธาร”ต้อนรับผู้นำอินโดนีเซีย ฉลองความสัมพันธ์ 75 ปี
“แพทองธาร”ต้อนรับผู้นำอินโดนีเซีย ฉลองความสัมพันธ์ 75 ปี ยกระดับความสัมพันธ์สู่ "หุ้นส่วนยุทธศาสตร์" พร้อมผลักดันความร่วมมือรอบด้าน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ต้อนรับ นายปราโบโว ซูบียันโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งแรก ประกาศยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศสู่ "หุ้นส่วนยุทธศาสตร์" เนื่องในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
การหารือระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือในหลากหลายมิติ โดยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างกระทรวงสาธารณสุขของทั้งสองประเทศ
นายกรัฐมนตรีแพทองธารย้ำถึงประวัติศาสตร์มิตรภาพอันยาวนานกว่า 150 ปี นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ เยือนเกาะชวาเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2414
5 แกนหลักความร่วมมือของสองประเทศ
1. ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง
ทั้งสองประเทศตกลงจัดทำ "แผนปฏิบัติการหุ้นส่วนยุทธศาสตร์" ภายในปีนี้ พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกองทัพในทุกมิติ รวมถึงอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และความร่วมมือระหว่างตำรวจในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ การค้ามนุษย์ และยาเสพติด
2. การกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ
ปี 2567 การค้าระหว่างไทย-อินโดนีเซียมีมูลค่าสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการการค้าร่วมครั้งแรกภายในปีนี้ ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมการลงทุนระหว่างกัน พร้อมทั้งนายกฯ แพทองธารขอให้อินโดนีเซียดูแลบริษัทไทยในประเทศให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม
3. ความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน
มีแผนฟื้นฟูการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมฮาลาล พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการเป็นหุ้นส่วนด้านการทำประมงอย่างยั่งยืน และเพิ่มความร่วมมือด้านพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสีเขียว
4. การเชื่อมโยงการท่องเที่ยว
ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการเปิดเส้นทางการบินใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ กับเมืองสุราบายาและเมืองเมดาน รวมถึงแผนเปิดเส้นทางบินภูเก็ต-เมดานในอนาคต หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศจะร่วมกันทำการตลาดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน
5. ความร่วมมือด้านสาธารณสุขและการศึกษา
ไทยพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่สั่งสมมากว่า 20 ปีกับอินโดนีเซีย โดยทั้งสองประเทศทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในกลุ่มนโยบายต่างประเทศและสุขภาพโลกภายใต้กรอบสหประชาชาติ
ร่วมผลักดันอาเซียนและสันติภาพในเมียนมา
ในฐานะประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ทั้งสองประเทศย้ำพันธกิจในการส่งเสริมความเป็นเอกภาพและความเป็นแกนกลางของอาเซียนท่ามกลางความผันผวนของสถานการณ์โลก
นอกจากนี้ ไทยและอินโดนีเซียจะร่วมมือกับมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน เพื่อสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในเมียนมา โดยมีอาเซียนเป็นผู้มีบทบาทนำ
การเยือนไทยของประธานาธิบดีอินโดนีเซียครั้งนี้ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งนายกรัฐมนตรีแพทองธารกล่าวขอบคุณสำหรับมิตรภาพอันอบอุ่น และแสดงความหวังที่จะได้เยือนอินโดนีเซียในอนาคตอันใกล้



16+



















