posttoday

นายกฯถกบอร์ดกระตุ้นศก.ลุ้นแจกเงิน10000เฟส3ไปต่อหรือพับแผน

19 พฤษภาคม 2568

นายกฯแพทองธาร ชินวัตร นั่งหัวโต๊ะถกบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ ลุ้นชะตา "เงินหมื่นดิจิทัล" เฟส 3 ไปต่อหรือพับแผน

จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนัดสำคัญ บ่ายวันนี้ ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ท่ามกลางกระแสข่าวการทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดยเฉพาะโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ให้กลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี วงเงินกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท ว่าจะยังคงเดินหน้าต่อหรือต้องพับฐานไปก่อน

วันนี้ (19 พฤษภาคม 2568) เวลา 15.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2/2568 ซึ่งวาระสำคัญที่ต้องจับตาคือการพิจารณาและทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่เคยวางกรอบไว้ โดยมีรายงานว่าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ระยะที่ 3 ซึ่งมุ่งเป้าไปที่กลุ่มเด็กไทยอายุ 16-20 ปี จำนวนประมาณ 2.7 ล้านคน ด้วยงบประมาณราว 27,000 ล้านบาท จะถูกนำมาพิจารณาอย่างเข้มข้น
 

ก่อนหน้านี้ ทั้งนายกรัฐมนตรีและนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต่างออกมายอมรับตรงกันถึงความจำเป็นในการทบทวนโครงการแจกเงินดังกล่าว เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่กำลังเผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและการค้าโลก

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในการประชุมวันนี้ คณะกรรมการฯ จะรับฟังรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจไทยล่าสุดจากหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณากรอบและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ โดยเบื้องต้นแนวทางใหม่จะเน้นไปที่มาตรการด้านการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังจะหยิบยกข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ได้เน้นย้ำให้ทบทวนแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีความผันผวนสูง ทั้งจากสงครามการค้าและนโยบายตอบโต้ทางการค้าของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งส่งผลให้ประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

สถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลให้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่าง Moody's ได้ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยเป็น Negative Outlook ซึ่งปัจจัยลบต่างๆ เหล่านี้คาดว่าจะทำให้รายได้ของประชาชนในภาพรวมลดลง โดยเฉพาะรายได้จากภาคการส่งออก อีกทั้งการจัดเก็บภาษีของรัฐก็อาจต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

ด้วยเหตุนี้ แผนงานและโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่ได้วางแผนไว้ จึงจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาและทบทวนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและรายได้ของรัฐที่ลดลง รวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลางปี 2568 ในส่วนของค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการดำเนินแผนงานหรือโครงการในปีงบประมาณ 2568

แหล่งข่าวระบุอีกว่า ที่ประชุมจะพิจารณาแนวทางการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญกับการสร้างการเติบโตจากภายในประเทศให้มากขึ้น เน้นการลงทุน และการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากและผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้อย่างแข็งแกร่งในระยะยาว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร นำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณารายละเอียดในคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีความชัดเจน ก่อนจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ทำให้ผลการประชุมบ่ายวันนี้จะเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางของโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ออกมาในรูปแบบใด.

ข่าวล่าสุด

รองนายกฯ “เอกนิติ” มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2568