เบรกทวีคุมDSI สว.ระเบิดแรง แดงVSน้ำเงิน สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาล
สถานการณ์ทางการเมืองไทยร้อนระอุอีกครั้ง บรรยากาศถูกเปรียบเปรยว่าเป็น "แดนสังหาร" (Killing Zone) อันเนื่องมาจากความพยายามในการถอดถอนสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพของรัฐบาลปัจจุบัน ประเด็นสำคัญที่จุดชนวนความขัดแย้งคือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และการสืบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขยายวงกว้างไปยังบุคคลและกลุ่มอิทธิพลต่างๆ
จุดเริ่มต้นความขัดแย้ง
การเมืองระอุดังว่าเริ่มขึ้นเมื่อประธานวุฒิสภายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสถานภาพความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงและข่มขู่เกี่ยวกับการเลือกสว.
ล่าสุด มติศาลรัฐธรรมนูญเป็นเอกฉันท์ให้พ.ต.อ.ทวี หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คำสั่งนี้ถือเป็นกรณีที่น่าสนใจเนื่องจากเป็นการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เพียงบางส่วน ต่างจากกรณีทั่วไป แต่ส่วนของนายภูมิธรรม ศาลไม่พบการกระทำผิดจึงอนุญาตให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ตามปกติ
สว. โต้กลับ – ดีเอสไอและการสอบสวนกกต.คดีฮั้ว
กลุ่มสว.มีการตอบโต้ พ.ต.อ.ทวีมาต่อเนื่องตั้งแต่การยื่นเรื่องป.ป.ช.และมีมติรับคำร้อง ที่ยื่นขอให้ตรวจสอบทั้งพ.ต.อ.ทวี และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเตรียมขอให้ศาลมีคำสั่งให้ดีเอสไอหยุดการสอบสวนคดี สว.โดยเฉพาะการรับคดีฮั้วเลือกส.ว.เป็นคดีพิเศษ อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังเดินหน้าสอบสวนเรื่องร้องเรียนเลือกสว.ได้ดำเนินการพิจารณาไปแล้ว 391 กรณีและมี 151 กรณีที่ได้ตัดสินแล้ว คาดการณ์ว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคลประมาณ 90-100 คน
การสอบสวนอาจขยายวงกว้างไปนอกเหนือจากสมาชิกสว. ไปยังบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกด้วย ซึ่้งบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิดอาจรวมถึงการจำคุก การปรับ และการตัดสิทธิ์ทางการเมือง
คดีฮั้วสว.โยงกลุ่มอิทธิพล ความกังวลในวงกว้าง
นอกเหนือจากกลุ่ม สว.ยังมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลหลายกลุ่มเข้ามาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้ทำให้เกิดความกังวลในวงกว้างถึงผลกระทบที่อาจตามมา ขณะนี้มีบุคคลภายนอกคนหนึ่งถูกตั้งข้อหาแล้วและต้องเข้าชี้แจงต่อ กกต.
หลังศาลรัฐธรรมนูญมติให้พ.ต.อ.ทวีหยุดทำหน้าที่คุมดีเอสไอ เกมการเมืองถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงสำหรับรัฐบาล ขณะที่กลุ่ม สว. ก็เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อป้องกันตนเองเต็มสูบ ความขัดแย้งครั้งนี้ จะดำเนินไปในทิศทางใด และจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของไทยในระยะยาวอย่างไร คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป
-ที่มา ประกอบเนื้อหารายงาน เนชั่นอินไซต์