posttoday

"ปริญญา"ไขปมทักษิณรักษาตัวชั้น14รพ.ตำรวจ"ใครต้องรับผิดชอบ"

09 พฤษภาคม 2568

ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ชี้ชัดใครต้องรับผิดชอบ ทักษิณรักษาตัวชั้น14รพ.ตำรวจ ไล่ตั้งแต่ผอ.เรือนจำ-รมว.ยุติธรรม ย้ำหลักฐานแพทย์สำคัญ หากพลาดเจอข้อหาประมาทเลินเล่อ

KEY

POINTS

  • ผอ.เรือนจำ-รัฐมนตรียุติธรรมมีอำนาจหน้าที่ดูแลนักโทษรักษาตัวนอกเรือนจำ
  • มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ชัดเจนตามช่วงเวลาของการรักษาตั้งแต่30-120วัน 
  • มีผู้รับผิดชอบต้องทำตามเงื่อนไขหลักฐานทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือเพียงพอ 
  • หากผู้มีอำนาจตัดสินใจผิดพลาดอาจเข้าข่ายประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่
     

ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นด้านกฎหมาย กรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รับไต่สวนเองกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น14 รพ.ตำตำรวจ มีการบังคับให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือไม่ วันที่ 13 มิ.ย.2568 ในประเด็นที่ว่า ผู้ใดต้องรับผิดชอบต่อกรณีการรักษาผู้ป่วยนอกเรือนจำ มีกำหนดอำนาจหน้าที่ตามระยะเวลาป่วยมากน้อยเพียงใด ดังนี้ 

ช่วง 30 วันแรกหลังรับตัวนักโทษตามคำพิพากษา ผู้อำนวยการเรือนจำพิเศษ เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจและรับผิดชอบในการอนุญาตให้นักโทษออกไปรับการรักษาพยาบาลภายนอกได้ แต่หากสถานพยาบาลภายในเรือนจำไม่สามารถให้การดูแลรักษาที่เพียงพอต่ออาการป่วยของนักโทษได้ 

หลังครบ30วัน ความรับผิดชอบจะเปลี่ยนไปอยู่ที่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้ตัดสินใจว่านักโทษรายควรได้รับการรักษาต่อเนื่องภายนอกเรือนจำหรือไม่

ต่อมาเมื่อครบ 90 วันแล้ว อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มีหน้าที่ต้องรายงานไปยัง เลขาธิการกระทรวงยุติธรรม พร้อมแนบหลักฐานทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน หากเลขาธิการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่าหลักฐานทางการแพทย์ที่นำเสนอมายังไม่เพียงพอ หรือมีข้อสงสัยในความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว เลขาธิการฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการพิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อไป
 

เมื่อครบ 120 วัน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะต้องรายงานเรื่องดังกล่าวไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมแสดงหลักฐานทางการแพทย์อีกครั้ง หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่าหลักฐานทางการแพทย์ที่นำเสนอมานั้นไม่น่าเชื่อถือ หรือมีข้อบ่งชี้ถึงความไม่โปร่งใส รัฐมนตรีฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายอย่างไรก็ตาม หากรัฐมนตรีฯ เชื่อมั่นในความถูกต้องและน่าเชื่อถือของหลักฐานทางการแพทย์ที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์นำเสนอ ก็จะไม่มีความรับผิดชอบในส่วนนี้

 
"การตัดสินใจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจนและเชื่อถือได้ หากมีการประเมินหลักฐานทางการแพทย์ที่ผิดพลาด หรือละเลยข้อมูลสำคัญ อาจนำไปสู่ข้อหาประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง"
 

สรุปความรับผิดชอบการรักษานักโทษนอกเรือนจำตามช่วงเวลา

วันที่ 1 - 30:
ผู้รับผิดชอบ: ผู้อำนวยการเรือนจำพิเศษ
อำนาจหน้าที่: อนุญาตให้นักโทษไปรับการรักษาภายนอกได้
หากสถานพยาบาลในเรือนจำไม่เพียงพอ

หลังจาก 30 วัน:
ผู้รับผิดชอบ: อธิบดีกรมราชทัณฑ์
อำนาจหน้าที่: ตัดสินใจว่านักโทษควรได้รับการรักษาต่อเนื่องภายนอกเรือนจำหรือไม่

เมื่อครบ 90 วัน:
ผู้รับผิดชอบหลัก: อธิบดีกรมราชทัณฑ์ (มีหน้าที่รายงาน)
ผู้รับผิดชอบเพิ่มเติม (หากหลักฐานไม่เพียงพอ): เลขาธิการกระทรวงยุติธรรม
หน้าที่: อธิบดีฯ ต้องแจ้งเลขาธิการฯ พร้อมแสดงหลักฐานทางการแพทย์ 
หากเลขาธิการฯ เห็นว่าหลักฐานไม่เพียงพอ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการพิจารณา

เมื่อครบ 120 วัน:
ผู้รับผิดชอบหลัก: อธิบดีกรมราชทัณฑ์ (มีหน้าที่รายงาน)
ผู้รับผิดชอบเพิ่มเติม (หากหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ): รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
หน้าที่: อธิบดีฯ ต้องแจ้งรัฐมนตรีฯ พร้อมแสดงหลักฐานทางการแพทย์ 
หากรัฐมนตรีฯ เห็นว่าหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการตัดสินใจ

ข้อสังเกตสำคัญ: ทุกขั้นตอนการตัดสินใจของผู้รับผิดชอบต้องอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือ 
การประเมินหลักฐานที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ความรับผิดทางกฎหมายในข้อหาประมาทเลินเล่อได้

ที่มาประกอบเนื้อหาข่าว onenews31