เลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ เดือด! 'เพื่อไทย-ประชาชน' ชิงฐานเสียง

คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศจัดการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ครอบคลุมเทศบาลนคร 32 แห่ง, เทศบาลเมือง 221 แห่ง และเทศบาลตำบล 2,245 แห่ง รวมทั้งสิ้น 2,498 แห่ง โดยการเลือกตั้งครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564

การเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับความสนใจจากพรรคการเมืองใหญ่ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน ที่มองว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นฐานเสียงสำคัญสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2570 และเป็นแหล่งงบประมาณท้องถิ่นที่สำคัญ

พรรคประชาชนส่งผู้สมัครรวม 101 เทศบาล ใน 39 จังหวัด แบ่งเป็นเทศบาลนคร 16 แห่ง, เทศบาลเมือง 28 แห่ง และเทศบาลตำบล 57 แห่ง (ข้อมูลจาก peoplesparty.or.th)

ขณะที่พรรคเพื่อไทยยังไม่เปิดเผยจำนวนผู้สมัครทั้งหมด แต่ส่งผู้สมัครในพื้นที่สำคัญ เช่น เทศบาลนครเชียงใหม่, เทศบาลเมืองปทุมธานี และเทศบาลตำบลธัญบุรี โดยมีนางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ ภรรยาของนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรี และมีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นแกนนำหาเสียง

การเลือกตั้งที่น่าจับตามองคือ เทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยส่งนายอัศนี บูรณุปกรณ์ ลงสมัคร โดยมีนายทักษิณช่วยหาเสียงและใช้ภาษาท้องถิ่นในการหาเสียง รวมถึงตอบโต้คู่แข่งด้วยคำว่า "หนุ่มสึ่งตึง"

การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสนามสำคัญสำหรับพรรคเพื่อไทยในการรักษาฐานเสียงในภาคเหนือ หลังจากที่เสียพื้นที่ให้กับอดีตพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566

พรรคประชาชนส่งนายธีรวุฒิ แก้วฟอง ลงสมัคร โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ช่วยหาเสียง ซึ่งเป็นการวัดพลังระหว่างสองพรรคในพื้นที่นี้

 เลือกตั้งเทศบาล 2568 ประชาชนหวังเห็นผู้นำใกล้ชิดปัญหาชีวิต

“สวนดุสิตโพล” เผยผลสำรวจประชาชน 1,137 คน ระหว่างวันที่ 22–25 เม.ย. 2568 พบประชาชนให้ความสนใจเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศสูง คาดหวังให้ผู้ชนะเร่งแก้ปัญหาใกล้ตัว เช่น น้ำ ไฟ ค่าครองชีพ และปากท้องอย่างเป็นรูปธรรม

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ระบุ ปัจจัยชี้ขาดผลเลือกตั้งยังคงเป็นเงินทุนหาเสียง อิทธิพลบ้านใหญ่ และพรรคการเมือง

ด้าน ดร.มุทิตา มากวิจิตร์ ชี้ว่าผู้นำท้องถิ่นต้องทำงานเชิงรุก รับฟังชุมชน และผลักดันนโยบายให้ตรงความต้องการ เช่น พัฒนาถนน แก้ปัญหาภัยธรรมชาติ ฝุ่น PM2.5 และสร้างอาชีพในพื้นที่

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่ประชาชนจับตา หวังเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงจากผู้นำท้องถิ่นคนใหม่