"อนุทิน" ยัน! เตรียมตั้งคกก.สอบสวน ปมทุจริตใช้งบประกันสังคม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบสำนักงานประกันสังคม กรณีกองทุนซื้อตึกมูลค่า 3 พันล้านบาท ในราคา 7 พันล้านบาท

 

นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาข้อเท็จจริง โดยต้องรอ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนาม โดยอาจจะใช้คนนอก เพราะปลัดกระทรวงแรงงานในช่วงที่ผ่านมาเคยเป็นอดีตเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม

 

นอกจากนี้ยังยืนยันว่าตนไม่ได้นิ่งนอนใจ และเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างทางประกันสังคมทำด้วยความโปร่งใส ส่วนการซื้อตึกยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่เชื่อว่าก่อนที่จะซื้อต้องมีการศึกษา มีบริษัทกลางมาเป็นผู้ประเมินว่าราคาสินทรัพย์ในแต่ละอย่างมีความเหมาะสม ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ประกันสังคม

 

“ขออย่าคิดว่าประกันสังคมทำไม่ถูกทุกเรื่อง เพราะประกันสังคมมีกรรมการมาจากหลายฝ่าย ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านการพิจารณาของบอร์ดประกันสังคมเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนที่จะเข้าบอร์ดนั้นอนุกรรมการในแต่ละชุดต้องมีการนำเสนอบอร์ดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง”

นายพิพัฒน์ กล่าว

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเนื่องจากตนเองเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ซึ่งพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต้องการให้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงต่อเรื่องดังกล่าวนี้

 

อนุทินกล่าวว่า กรณีที่เป็นประเด็นนั้นเป็นช่วงที่ บุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ซึ่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น ก็ต้องมีการตั้งข้าราชการระดับ 11 จึงได้ตั้ง อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าวนี้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการชุดดังกล่าวนี้ จะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องใดบ้าง อนุทิน กล่าวว่า ตนเองไม่ได้กำหนดขอบเขต โดยให้พิจารณาและสอบสวน ในเรื่องที่เป็นประเด็น ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีอีกหลายคน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงระยะเวลาในการดำเนินการ อนุทิน กล่าวว่า ให้เร็วที่สุด โดยที่เราต้องไม่มีการแทรกแซงก้าวก่ายใดๆ เพื่อให้มีความเป็นธรรมสูงสุด

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวนี้ จะสอบสวนเพื่อลงโทษวินัยหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า ให้อยู่ที่ผลของการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมย้ำว่า คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวนี้เพื่อสอบสวน ยังไม่ถึงกระบวนการของการลงโทษแต่อย่างใด หากทราบข้อเท็จจริง หรือได้ทราบความผิดปกติใดๆ ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ก็จะมีการพิจารณาต่อไป