'วันนอร์'สั่งถอดชื่อทักษิณพ้นญัตติซักฟอกลุแก่อำนาจทุบระบอบถ่วงดุล

จับตาท่าทีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน หลัง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือขอให้ตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรยืนยันว่าไม่ได้มีอคติกับใครหรือรับงานใคร แค่เป็นการรักษากติกาข้อบังคับการอภิปรายถึงบุคคลภายนอกที่ไม่สามารถเข้ามาชี้แจงในสภาฯ ได้เขาห้ามไว้

"ผมเป็นสส.มา 40 กว่าปี ไม่เคยมีญัตติที่เขียนชื่อคนนอกไว้ ไม่เช่นนั้นสภาฯ จะไม่เป็นสภาฯ หากเอ่ยชื่อใครก็ได้ จะอภิปรายนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีก็ว่าไป ทั้งนี้หากชื่อคนนอกไม่อยู่ในญัตติจะอภิปรายอะไรก็อภิปรายไป" 

"ถ้าเขาเสียหายก็จะฟ้องคนพูด แต่ถ้าบรรจุในญัตติหากมีการฟ้อง จะฟ้องประธานสภาฯ ที่ให้บรรจุระเบียบวาระ ซึ่งประเด็นเรื่องอำนาจการบรรจุระเบียบวาระ ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยในประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้แล้วว่าประธานรัฐสภามีหน้าที่บรรจุระเบียบวาระและควบคุมการบริหารงานสภาฯ" ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุ 

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กแสดงท่าทีว่า ในความเป็นจริงสภาเรามีการเอ่ยถึงบุคคลภายนอกมาแล้วหลายครั้ง ก่อนหน้านี้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชนก็เคยเอาญัตติหนึ่งที่เกี่ยวกับนักกิจกรรมทางการเมืองมาแสดงให้ประชาชนได้เห็นว่า ญัตติที่เอ่ยถึงบุคคลภายนอกมันก็มีจริงๆ

ครั้งนี้ ขอเอาญัตติของอาจารย์วันนอร์เองนี่แหละที่เสนอตั้งกรรมาธิการศึกษาเรื่องรถไฟสามสนามบิน ซึ่งมีการพาดพิงบุคคลภายนอกชัดเจน โดยกรณีนี้คือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด โดยรายละเอียดของญัตติก็มีการพูดถึงผลกระทบต่างๆจำนวนมากอีกด้วย 

ทั้งนี้ญัตตินี้ก็ได้รับการบรรจุโดยท่านประธานสภาในเวลานั้นคือนายชวน หลีกภัย ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกันญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านในวันนี้ที่ใส่ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะการให้ข้อเท็จจริงว่านายทักษิณอยู่เบื้องหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สามารถทำได้อยู่แล้ว 

ล่าสุด นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เห็นว่า การให้แก้ญัตติโดยถอนชื่อนายทักษิณออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประธานสภาผู้แทนราษฎรใช้อํานาจโดยอ้างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2562 โดยตีความในทางที่เป็นปฏิปักษ์ต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 

ย่อมเป็นการใช้และตีความกฎหมายที่ลุแก่อํานาจที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้ ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงและทำลายอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติในการควบคุมตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร

ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. 2562 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ ดั้งนั้น จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็วที่สุดต่อไป