เปิดมุมมอง ชาวGen Y ต่อการทำงาน ที่ไม่ใช่แค่ Work-Life Balance

จากรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการอภิปรายไม่ใว้วางใจของสภา โดยระบุว่า เป็นเวทีที่ดี  ที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจในข้อมูลที่แท้จริง และ เข้าใจความเป็นนายกรัฐมนตรี “Gen Y” ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะยังไม่เคยมีมาก่อน

 

โพสต์ทูเดย์จึงได้รวบข้อมูลแนวคิดด้านการทำงานของชาว Gen Y มาไว้ให้ผู้อ่านได้พิจรณาว่า มีนายกฯ Gen Y ดีหรือไม่ดีอย่างไร

 

Gen Y หรือ Millennials คือผู้ที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2524 - 2539 เป็นกลุ่มคนเติบโตมาในยุคดิจิทัล ทำให้มีมุมมองและค่านิยมในการทำงานที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน ๆ อย่างชัดเจนชาวGen Y มีความคิดว่า การทำงานเป็นมากกว่าแค่เงินเดือนและความก้าวหน้า

 

ลักษณะการทำงานที่โดดเด่นของชาวGen YWork-Life Integration (การผสมผสานชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว) คือ ไม่ใช่แค่ Work-Life Balance (สมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว) แต่เป็นการผสมผสานชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

 

พวกเขาต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ เช่น การทำงานแบบ Remote Working หรือ Flexible Hours

 

ชาวGen Y เชื่อว่าชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวไม่ควรแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่ควรผสมผสานกันอย่างลงตัว เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ

Purpose-Driven (ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย)ชาวGen Y มักมองหางานที่มีความหมายและสร้างคุณค่า พวกเขาต้องการทำงานที่สอดคล้องกับค่านิยมของตนเอง และมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสังคม พวกเขาต้องการทำงานที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้กับสังคม และมักจะให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

 

Tech-Savvy (เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี)

ด้วยความที่ชาวGen Y เติบโตมาในยุคดิจิทัล จึงคุ้นเคยกับเทคโนโลยีเป็นอย่างดี และสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาต้องการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ทันสมัยและใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารและทำงานร่วมกัน และ มักจะใช้เทคโนโลยีในการทำงานร่วมกัน เช่น การใช้โปรแกรมแชท การประชุมทางวิดีโอ และการใช้โปรแกรมจัดการงาน

Collaboration and Feedback (การทำงานร่วมกันและการตอบรับ)

ชาวGen Y ชอบการทำงานเป็นทีม และให้ความสำคัญกับการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พวกเขาต้องการฟีดแบคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำไปพัฒนาตนเอง พวกเขามักจะทำงานร่วมกันในรูปแบบของทีมที่มีความหลากหลาย และมักจะให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดกว้างและโปร่งใส

ความต้องการของชาวGen Y ในที่ทำงาน

1.ความยืดหยุ่น (Flexibility)

ด้านเวลาและสถานที่ทำงาน เช่น การทำงานแบบ Remote Working หรือ Flexible Hours พวกเขาต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกเวลาและสถานที่ทำงาน เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนตารางการทำงานให้เข้ากับชีวิตส่วนตัวได้

 

2.การพัฒนาตนเอง (Personal Development)

โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เช่น การฝึกอบรม การสัมมนา หรือการได้รับมอบหมายงานที่ท้าทายพวกเขามองหาโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเติบโตในสายอาชีพได้

 

3.วัฒนธรรมองค์กร (Company Culture)

มีความหลากหลาย การยอมรับ และการทำงานเป็นทีมมีวัฒนธรรมที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่าง

  - มีการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารที่ดี

  - มีการสื่อสารที่โปร่งใส (Transparent Communication):

  - มีฟีดแบคอย่างสม่ำเสมอ

 - มีการสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา

 - ต้องการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอย่างสม่ำเสมอ