มติศาลรธน. 5ต่อ4 เศรษฐาพ้นนายกฯปมตั้งพิชิตไม่ซื่อสัตย์-ผิดจริยธรรม
มติศาลรัฐธรรมนูญ 5 ต่อ4 เศรษฐาพันนายกฯ ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว กรณีแต่งตั้งพิชิต เป็นรัฐมนตรี กระทำโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริตและผิดจริยธรรมร้ายแรง
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลา 15.30น. นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวม9คน ประกอบด้วย นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ นายนภดล เทพพิทักษ์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ นายอุดม รัฐอมฤตและนายสุเมธ รอยกุลเจริญ ออกนั่งบัลลังก์ อ่านคำวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2563 โดยมีมติ 5ต่อ4 เสียงให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5 ) กรณีนำความขึ้นกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตามคำร้องของกลุ่ม40สว.
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้องที่ 1 (นายเศรษฐา) ไม่มีความความซื่อสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง การแต่งตั้งนายพิชิต เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตน ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯ อาจจะกระทบกระเทือนต่อศรัทธาของประชาชน
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การที่นายเศรษฐารู้ หรือควรรู้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับพฤติการณ์ของนายพิชิตแต่ยังเสนอแต่งตั้งให้เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ แสดงให้เห็นว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 160 (4) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ หมวด 1 ข้อ 8 ซึ่งข้อ 27 กำหนดให้การฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯในหมวด 1 ให้ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง ต้องห้ามตามมาตรา 160 (5) ด้วย
อาศัยเหตุผลดังกล่าว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียงวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดคุณสมบัติ 160 (4) และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง ลักษณะต้องห้ามตาม 160 (5) เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกฯสิ้นสุดลง ตามมาตรา 170 (4) แล้ว รัฐมนตรีต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญ 167 วรรคหนึ่ง (1) มาใช้บังคับการปฏิบัติหน้าที่ของ ครม.ที่พ้นตำแหน่งต่อไป
สำหรับเรื่องพิจารณาที่ 17/2569 ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องเฉพาะในส่วนของนายเศรษฐา ไว้วินิจฉัย เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2567 โดยมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย ประกอบด้วย นายนครินทร์นายอุดมและนายสุเมธ และ มติ 5 ต่อ 4 เสียงไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย ประกอบด้วย นายปัญญา นายอุดม นายวิรุฬห์ และนายจิรนิติ


