ศึกเลือกตั้ง ราชบุรี พิษณุโลก เดิมพันชี้วัด พลังก้าวไกล ข้า(ไม่)ตาย ?

วันที่ 7ส.ค. 'ศาลรัฐธรรมนูญ' วินิจฉัย 'ยุบพรรคก้าวไกล' มติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ข้อหาเป็นปฏิปักษ์ ล้มล้างการปกครองฯ เพิกถอนสิทธิการเมือง กรรมการบริหารพรรคทั้ง 11 คน เป็นเวลา 10 ปี 

'ชัยธวัช ตุลาธน' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค 'ศิริกัญญา ตันสกุล' สส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าว แม้ 2จาก3 ชัยธวัช พิธา โดนตัดสิทธิการเมือง แต่จะขอช่วยงาน พรรคใหม่ ที่สืบสานอุดมการณ์พรรคก้าวไกลต่อไป ในฐานะประชาชนอย่างเต็มที่ จะเป็น ผู้ช่วยหาเสียง  

"เข้าใจว่าประชาชนผิดหวัง โกรธแค้น เศร้าเสียใจวันนี้ให้พอ แต่พรุ่งนี้เอาพลังงานที่มี ไม่ให้กัดกินเรา ไประเบิดในคูหาทุกการเลือกตั้ง ประชาชนที่ฟังอยู่ 2-3จังหวัด ไม่ต้องรอนาน การเลือกตั้งซ่อมสส.เขต1 พิษณุโลก ในฐานะประชาชน เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ การเลือกนายกอบจ.ราชบุรี วันที่ 1 ก.ย. ขอให้ประชาชนผลักดันเป็นพลังเชิงบวก ไปจนถึงการเลือกตั้งในปี2570" พิธา ปลุกใจ ประชาชนที่ไม่พอใจคำพิพากษา เปลี่ยนให้เป็นพลัง ไประเบิดออกในคูหาเลือกตั้ง 

ผู้นำความคิด ก้าวไกล ขอใช้สนามเลือกตั้ง เป็นเครื่องบ่งบอก ประชาชนรู้สึกอย่างไรกับ ก้าวไกล และ คำวินิจฉัยของศาล

ปฏิทินการเมือง ในห้วงเวลา45 วันนับจากนี้ มี2สนามการเมือง ก้าวไกล คณะก้าวหน้า หรือ พรรคใหม่ที่สืบสานอุดมการณ์จากก้าวไกล ลงพิสูจน์คะแนนนิยม

1กันยายน การเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี สนับสนุน หวุน-‘ชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์’ ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี ในนามพรรคก้าวไกล 

ชนกับ 

‘วิวัฒน์ นิติกาญจนา’ อดีตนายก อบจ.ราชบุรี และผู้สมัครนายกอบจ.ราชบุรี ในฐานะแชมป์เก่า เครือข่ายบ้านใหญ่ ผู้กว้างขวางเมืองราชบุรี 

การเลือกตั้งเมื่อปี 2566 จาก 5 เขตเลือกตั้ง ปรากฎว่า พรรคร่วมรัฐบาล คว้าชัยชนะ ได้ทั้ง 5เขต 

นางสาวกุลวลี นพอมรบดี สส.เขต1 ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ
นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.เขต2 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ
นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.เขต3 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ 
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.เขต4 พรรครวมไทยสร้างชาติ
นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ สส.เขต5 พรรคพลังประชารัฐ 

ก้าวไกล ไม่ได้สส.เขตเลือกตั้งแม้แต่เขตเดียว แต่ถ้าไปดูคะแนน บัญชีรายชื่อ ก้าวไกลได้สูงถึง 233,608 คะแนน รองลงมา พรรคเพื่อไทยได้ 102,757 คะแนน

พิษณุโลก  ผลกระทบ หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตสส.พิษณุโลก และหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมสส.เขต1 พิษณุโลก 

ตามกฎหมาย จะต้องมีการจัดเลือกตั้งซ่อมภายใน 45 วัน เมื่อนับตามปฏิทิน ความเป็นไปได้ คาดว่า การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้น อาทิตย์ที่ 8 , 15 หรือ 22 กันยายน

นับจากสนามเลือกตั้ง ราชบุรี มาถึง พิษณุโลก จะมีเวลาห่างกัน 1-3 อาทิตย์ ที่ ก้าวไกลจะต้องวางกลกยุทธ สู้ทั้งสนามท้องถิ่น กับ สนามระดับชาติ โดยเฉพาะในสนามพิษณุโลก มีแนวโน้มอย่างสูง พรรคในรัฐบาล กำลังหาฉันทานุมัติ เตรียมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ขอเพิ่มแต้มสส. ในฝั่งรัฐบาลเช่นกัน  

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส. พ.ศ.2561 มาตรา 41 บัญญัติว่า บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 
(3)เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า เก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไปเพราะมีเหตุยุบสภา ระยะเวลาเก้าสิบวันดังกล่าวให้ลดลงเหลือสามสิบวัน

มีการมองกันว่า แม้พรรคก้าวไกล จะทำการผ่องถ่ายสมาชิกพรรค เปิดตัวหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค จากก้าวไกล ไป พรรคใหม่ ตั้งแต่วันที่ 8ส.ค. แต่ด้วยเงื่อนไข การสังกัดพรรคกำหนด ผู้สมัครต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน

การเลือกตั้ง มาถึงก่อน สมาชิกสังกัดพรรคครบกำหนดตามกฎหมาย กลุ่มผู้นำความคิด ก้าวไกล จะหาทางออกตรงนี้อย่างไร ให้รู้ถึงแม้ ผู้สมัครคนนั้นยังไม่ได้สังกัดพรรคใหม่ แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจาก กลุ่มสีส้ม

ก้าวไกล จัดกิจกรรมหลังทราบผล คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรค 'ยักไหล่แล้วไปต่อ' ในโลกโซเชียล ในแวดวง ผู้นำความคิดในก้าวไกล ย้ำอย่างหนักแน่น ก้าวไกลข้าไม่ตาย ผลการเลือกตั้ง 2 สนาม ท้องถิ่น-ระดับประเทศ คงเป็นบทพิสูจน์ ในเวลาอันใกล้ได้เป็นอย่างดี ผลสะเทือนยุบพรรค ประชาชนที่คับแค้น ให้ไประเบิดในคูหา สนามเลือกตั้งนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ข้าไม่ตาย หรือ ข้า(ไม่)ตาย กันแน่