ผ่ากลยุทธ์ มาเหนือเมฆ สายสีน้ำเงิน ครองสนามเลือกสว.
เปิดเบื้องหลังกกต.ถกเดือดก่อนรับรองผลเลือกสว.ด้วยมติเสียงข้างมาก5ต่อ2 ท่ามกลางเสียงคัดค้านปมคุณสมบัติผู้สมัคร ภารกิจสำคัญ 'สว.ชุดใหม่' เลือกองค์กรอิสระ เกมชี้วัดอนาคตการเมืองไทย
ชัดเจน200สว.พันธุ์ใหม่ที่ได้มาบวกกับอีกสำรอง99คน หลังการประกาศรับรองผลของกกต. มีการเตรียมความพร้อมมาก่อน 6 เดือน โดยเฉพาะสว.สายสีน้ำเงิน ทั้งเซ็ตระบบ วางคน กำหนดโหวตเตอร์ ผ่านกระบวนการจัดการโดยนักเลือกตั้ง มืออาชีพ เสมือนธุรกิจขายตรง
ว่ากันว่า แต่ละทีมมีแกนนำ1คน คอยกำกับตั้งแต่ระดับอำเภอ โดยมีหัวหน้าหน่วยคอยทำหน้าที่หาลูกข่าย ให้ได้800คน ได้รับค่าตอบแทนคนละ 25,000 บาท โหวตเตอร์ รับผลตอบแทน 75,000 บาท หัวหน้าหน่วยได้รับพิเศษเพิ่ม 100,000 บาท
เมื่อเข้าสู่การเลือกสว.ระดับจังหวัด มีหัวหน้าทีม "หน่วยมังกรเพชร" คอยจัดการดูแลเพื่อให้คนตามโพย เข้าสู่การเป็นสว. รับผลตอบแทบอีก75,000บาท รวมเป็น150,000 บาท หัวหน้าทีมรับพิเศษเพิ่ม 100,000 บาท
ต่อมา เมื่อเข้าสู่การเลือกระดับประเทศ สำหรับโหวตเตอร์ ได้รับ 80,000 บาท โดยมี หัวหน้าทีม"หน่วยมงกุฎเพชร" คอยกำกับเป็นรายภาค เติมเงินให้อีก 150,000 บาท ส่วนหัวหน้าทีมแต่ละระดับรับอีกคนละ 100,000 บาท
ก่อนวันเลือกสว.มีการเก็บตัวว่าที่ผู้สมัครสว.1คืน มีการจ่ายเงินค่าห้องพักเป็นการส่วนตัว ส่วนโพยเลือกสว.มีการจดไว้ในเอกสารแนะนำตัว ทว่าแม้กกต.จะมีการรับรองผลการเลือกสว.เป็นที่เรียบร้อยแล้วยังมีโอกาสสอยเป็นรายบุคคล
มีเบื้องหลังก่อนรับรองผลเลือกสว.67 คณะกรรมการกกต.7อรหันต์ ประชุมอย่างน้อย5ครั้ง ก่อนมีมติออก 5ต่อ2เสียง
กกต.เสียงข้างน้อยไม่เห็นด้วยกับรับรองผลเลือกสว.67 เพราะเห็นว่า การได้มาซึ่งสว.ไม่บริสุทธิ์ เที่ยงธรรมยึดโยงกับพรรคการเมือง คือ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ และนายฐิติเซษฐ์ นุชนาฎ
ส่วน 5กกต.เสียงข้างมากให้รับรองผลเลือกสว.ประกอบด้วย อิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. ศ.สันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นายปกรณ์ มหรรณพ นายชาย นครชัย และนายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ
โดย5กกต.เสียงข้างมากที่ประกาศรับรองผลเลือกสว. อาจเข้าข่ายผิดอาญา157 จากปมรับรองผู้สมัครบางรายที่ขาดคุณสมบัติ
สำหรับพันธกิจแรกของ200สว.คือการรับรองผลการสรรหา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประสิทธิมีลาภ และอัยการสูงสุด ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากสว.ชุดก่อน
แต่ก่อนรับรองผล ให้จับตาไปที่ประธานสว.คนใหม่ เป็นประการสำคัญ
ว่าด้วยสว.ชุดใหม่ แม้ไม่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ก็มีอิทธิฤทธิ์ ในการเลือกบุคคลผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งในหน่วยงานองค์กรอิสระ ประกอบด้วย
- คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
- คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
- ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
- ผู้ตรววจการแผ่นดิน
- คณะกรรมการการเลือกตั้ง
- คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
- คณะกรรมการกสทช.
โดยในหน่วยงานองค์กรอิสระข้างต้น มีบุคคลที่จะครบวาระอันใกล้จำนวน 41 คน ซึ่งสว.ชุดใหม่มีวาระการดำรงตำแหน่ง5ปีนับแต่วันโปรดเกล้าฯ ดังนั้น สว.ชุดนี้จึงมีพลังอย่างมหาศาล และชี้วัดอนาคตการเมืองไทยด้วยประการฉะนี้.


