นักวิชาการ มั่นใจ กกต.ปล่อยสว.ก่อน ตามสอยทีหลัง ชี้ จับฮั้ว หลักฐานต้องชัด
ธนพร ไม่แปลกใจ 3ก.ค. กกต.ยังไม่รับรอง 200สว. ยกเรื่องร้องเรียนเยอะ ระบุ ฮั้วเลือกสว. จับโกง เป็นเรื่องยาก ต้องมีพยาน หลักฐาน แลกประโยชน์ชัด เชื่อ กกต.ตามสอบปมคุณสมบัติ ง่ายสุด ชัดสุด มั่นใจ สว.ชุดแต่งตั้ง ไม่ได้ทำหน้าที่ยาว สัปดาห์หน้า กกต. รับรองสว.
KEY
POINTS
- ธนพร ศรียากูล นักวิชาการ ระบุไม่เหนือความคาดหมาย 3ก.ค. กกต.ยังไม่รับรองสว.67 จำนวน 200 คน
- กกต. ต้องตรวจสอบเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก ให้ถูกต้อง คาดว่า ในช่วงสัปดาห์หน้า รับรองสว.ก่อน แล้วค่อยไปสอยทีหลัง
- นักวิชาการระบุ เรื่องที่เห็นเด่นชัด ตรวจสอบได้คือ คุณสมบัติผู้สมัครสว.
- การจับซื้อเสียง บล็อกโหวต ฮั้วสว. ต้องมีพยาน หลักฐานชัดว่า มีการให้สิ่งตอบแทนหรือประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใดแก่กัน
ภายหลังจาก นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกมาเปิดเผย วันที่ 3ก.ค. กกต.จะยังไม่ประกาศรับรองสมาชิกวุฒิสภา(สว.) 200 คน ขอตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผู้สมัครสว. ที่มีเข้ามาจำนวนมากก่อน
'ธนพร ศรียากูล' ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย ให้สัมภาษณ์กรณี กกต.ยังไม่ประกาศรับรอง 200 สว. ในวันที่ 3ก.ค. จนถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า อาจส่งผลย้อนกลับมาถึงกระบวนการเลือกสว.67ว่า
การที่กกต.ประกาศเลื่อนการประกาศผลรับรอง 200 สว.ออกไป ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย โดยหลักกกต. ต้องให้ความสำคัญกับคำร้องที่ยื่นมามากมาย ใครที่คาดหวังกกต.จะเลื่อนไปเป็นปี ทำให้สว.ชุดนี้ รักษาการไป คงไม่เป็นไปตามนั้น เพราะข้อร้องเรียนต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง 1.คุณสมบัติเฉพาะตัวผู้สมัครสว. เช่น อาชีพไม่ตรงปก แต่คงไม่มีเหตุทำให้การเลือกสว.ทั้ง 200 คน เป็นโมฆ 2. การบล็อกโหวต การฮั้วสว.
เรื่องนี้ เลขาธิการกกต.ได้ให้ความเห็น หากยังพิสูจน์ไม่ได้ มีการตอบแทนทางผลประโยชน์ มีการใช้ทรัพยากร ให้กล้วยกันหรือไม่ เป็นเรื่องทางคดีที่ต้องใช้หลักฐาน พยาน กกต.ต้องนำไปยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อดำเนินคดี ถ้าไม่มีความชัดเจนตรงนี้ กกต.ไม่มีเหตุในการเพิกถอนสิทธิ หรือไปบอกว่า คนๆนั้นทำผิดกฎหมาย
ตอนนี้กกต.ดำเนินการตามกระบวนการกกต. แต่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ สังคมก็ทำถูก เพราะตอนเลือกสส. กกต.ได้อยู่ในสภาพเช่นนี้ คือ รับรองไปก่อนแล้วไปสอยทีหลัง คำถามคือ เลือกสส.มาปีกว่า สอยได้กี่คน การเลือกสว.67 ก็เหมือนกัน สุดท้ายแล้วคิดว่า อาจจะดีเลย์ไปได้สักสัปดาห์ ที่น่าจะมีการประกาศรับรอง
"คนที่คาดหวังว่าจะไปสอยกันทีหลังเยอะๆ ขอให้ตื่นดีกว่า การสอย เชื่อว่าจะมีการสอยกันบ้าง โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติ เพราะเรื่องนี้มีคนเกี่ยวข้อง 3 ส่วน (1) ผู้ที่รับรอง (2) คนลงนามเป็นพยาน (3) ผู้สมัครสว. จะเห็นได้ว่า การรับรองคุณสมบัติบุคคล มีคนเกี่ยวข้อง 3 คน เรื่องนี้น่าจะโดนแน่ๆ ไม่เกิน 10 คน เรื่องการจัดฮั้ว อย่าไปคาดหวัง ไม่มีทางเป็นไปได้ การไปเข้าค่าย ส่งกำลังบำรุง
ผมเป็นคนเดียวที่ออกมาพูด ชี้ด้วยซ้ำว่า ค่ายไหนอยู่ที่ไหน แต่การจะไปเอาหลักฐานมามัด ไม่ง่าย ต้องหาภาพถ่ายมีการเจรจา มีการเสนอสิ่งตอบแทน แต่ที่มาร้องๆกัน เป็นเพียงหัวเชื้อ ให้กกต.นำไปสืบต่อ เช่น กรณีบล็อกโหวต ที่ให้ข้อมูลมาว่า มาเป็นก้อน เป็นกลุ่ม เป็นเพียงพฤติกรรม ร่องรอย แต่ถ้าจะไปดำเนินคดี ยังไม่พอ กกต.ต้องนำไปพิสูจน์ การที่ได้คะแนนออกมาแบบนี้ เพราะได้รับการจูงใจทางด้านผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นกล้วย หรือ ประโยชน์อื่นใด ซึ่งตรงนี้ ไม่ง่าย ขอฟันธง อย่างไรสว.ชุดใหม่ ก็เดินหน้าแน่นอน"
การตั้งข้อสังเกตุ ผู้สมัครใจตรงกัน ไปเลือกผู้สมัครบางคนแบบเหมือนๆกัน
เข้าใจ แต่ตรงนี้ ก็เป็นร่องรอย เป็นสารตั้งต้นว่า มีความผิดปกติ แต่คำถามคือ ความผิดปกติที่เกิดขึ้น เลขากกต.ยืนยันเอง การขอเสียง การแนะนำตัวของผู้สมัครสว. กฎหมายไม่ได้ห้าม แต่จะผิด ต่อเมื่อ การมากากันแบบนี้ มีการแลกเปลี่ยนทางผลประโยชน์หรือไม่ ตรงนี้ถึงจะผิด ต้องแยกเรื่อง
เราก็ทราบดีและเห็น แต่เหตุแห่งความผิดปกติดังกล่าว พิสูจน์ได้หรือไม่ว่า คนเหล่านี้ มีพฤติกรรมผิดปกติ เขาไปกินกล้วยกัน เป็นหน้าที่กกต.ต้องไปสืบต่อ แต่คงไม่เร็ว เมื่อไม่เร็ว กกต.ก็ต้องประกาศรับรองไปแล้วค่อยสอย
สิ่งที่สอยได้ง่ายที่สุดคือ เรื่องคุณสมบัติ เพราะมีคนเกี่ยวข้องเพียงแค่ 3 คน แต่เชื่อเถอะ คงไม่เกิน 10 คน
สังคมบางส่วนมองไปไกล ไม่อยากให้สภาสูง ปกคลุมด้วยสีน้ำเงิน แม้อาจไม่ทำให้ โมฆะ แต่ก็อาจทำให้กระบวนการดังกล่าว ทอดยาวออกไปให้ได้มากที่สุด
ชั่วโมงนี้ ไม่มีใครมีออร่าทางการเมืองเท่า พลพรรคสีน้ำเงิน อันนี้พูดทางการเมือง แต่สำหรับข้อเท็จจริง การที่กกต.ไปลงโทษผู้กระทำผิด อยู่ที่พยาน หลักฐาน ไม่เช่นนั้น กกต.จะโดนแบบกรณี นายสุรพล สส.เชียงใหม่ (นายสุรพล เกียรติไชยากร อดีตสส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ที่กกต.ให้ใบส้ม แต่ต่อมา ศาลอุทธรณ์ภาค5 พิพากษาว่า ไม่ผิด และสั่งให้กกต.ต้องชดใช้ค่าเสียหาย) กกต.ก็มีความเสี่ยง
เข้าใจดีและรู้ว่า มีกระบวนการ เพราะได้นำเรื่องนี้มาพูด แต่สิ่งที่พูด คือชี้ให้กกต.จับตาเป็นพิเศษ สิ่งที่เกิดขึ้นกับการนับคะแนน โดยสิ่งที่เกิดขึ้น ต้องมีหลักฐานมาประกอบว่า สิ่งที่เกิด มีการแลกเปลี่ยนประโยชน์หรือไม่ อย่างไร
แม้ส่วนตัวมั่นใจว่ามี แต่ว่า มีหลักฐานหรือเปล่า ตรงนี้ต่างหาก การจะบอกใครผิด ไม่ผิดทางกฎหมาย อยู่ที่พยาน หลักฐาน แต่ทางการเมือง เข้าใจแบบนั้น ไม่ได้ผิดจากข้อเท็จจริง ส่วนกระบวนการทางกฎหมาย ต้องมีพยาน หลักฐาน


