แสวง ย้ำ กกต.มีวิธีป้องกันฮั้วเลือกสว. แจง ธนาธร ช่วยรณรงค์ได้
นายแสวง บุญมี เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงรูปแบบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) และการแนะนำตัว ที่ถูกพิพากษ์วิจารณ์ว่า รูปแบบและการเลือกตั้ง แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เป็นผู้กำหนด สิ่งที่กกต.ทำคือ เรื่องการแนะนำตัว ต้องแยกกันระหว่างเรื่องประชาชนไม่มีสิทธิ์เลือก หรือรูปแบบการเลือก ซึ่งอยู่ในกฎหมาย ไม่ใช่กกต. กำหนด จึงแก้ไม่ได้
การแนะนำตัว กกต.ก็ไม่ได้ทำเกินกว่ากฎหมายกำหนด กฎหมายกำหนดให้ผู้สมัครสว.แนะนำตัวกับผู้ที่มีสิทธิ์เลือกคือ ผู้สมัครด้วยกันเอง เราตระหนักถึงความสำคัญของประชาชน ถึงแม้ประชาชนไม่ได้เลือกโดยตรง แต่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย ต้องทำหน้าที่แทน ประชาชนมีสิทธิ์ติดตาม ตรวจสอบ สังเกตุการณ์ หลังปิดรับสมัคร ระหว่างที่สมัครไม่ให้เปิดเผยชื่อ จะมีส่วนได้เสีย ระหว่างกลุ่มต่างๆ
"กกต.จะนำรายชื่อผู้สมัครทุกคนลงในแอพพลิเคชั่น Smart Vote และเว็บไซต์ กกต. ประชาชนจะทราบรายชื่อ ประวัติ ประสบการณ์การทำงาน ของผู้สมัครสว. ทุกคน และผู้สมัครก็ต่างติดต่อกันได้ ทางช่องทางอีเมล์ และ LINE ระบบนี้เพียงพอ ทำให้ทั้งประชาชนและผู้สมัครด้วยกัน พิจารณาเลือกผู้สมัครด้วยกันเองได้"นายแสวงกล่าว
นายแสวงกล่าวว่า การที่ผู้สมัครสว.บางคนออกมาเปิดตัว แนะนำตัว ไม่ได้ผิดกฎหมาย การเชิญชวนกับการเปิดตัวทำได้ กกต.ก็เชิญชวน ขอให้ไม่ให้มีคุณสมบัติต้องห้าม มีประสบการณ์ในกลุ่มสาขาอาชีพที่จะลง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หรือคนอื่นๆ สามารถทำได้ ที่เชิญชวนให้คนลงสมัคร สว. ทั้งนี้การเลือก สว. ช่วงเวลาไม่เหมือนกับการเลือกตั้งสส. ที่ต้องกำหนดภายใน 45-60 วัน แต่การเลือก สว. จะนับหนึ่งเมื่อมีพระราขกฤษฎีกา ขณะนี้ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ ลงมา จากนั้นจะมีเวลาของแต่ละกระบวนการในการเลือกระดับอำเภอ จังหวัด ซึ่งรวมแล้วไม่เกิน 60 วัน แต่ไม่ได้กำหนดว่าภายในกี่วัน
สำหรับระเบียบการแนะนำตัวของผู้สมัครสว. สามารถทำผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ให้แนะนำตัวกับผู้สมัครด้วยกัน รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ส่วนประวัติและข้อมูลต่างๆ กกต. เผยแพร่ในเว็บไซต์อยู่แล้ว ผู้สมัครในระดับอำเภอ จะไม่ทราบจำนวน แต่ระดับจังหวัดจะเหลือ 55,000 คน ประชาชนสามารถติดตามได้ตลอด วันเลือกตั้งจะมีการถ่ายทอดผ่านระบบวงจรปิด ทั้งในระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศที่เมืองทองธานี เพื่อให้ผู้สื่อข่าว ประชาชน สังเกตการณ์บรรยากาศภายใน ที่ผู้สมัครไปออกเสียงลงคะแนน
นายแสวง ยังกล่าวถึงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นอะไรที่ผิดกฎหมาย กกต. ได้ติดตามจากสื่อและผู้สมัคร ยังไม่มีอะไรหมิ่นเหม่ล่อแหลมที่จะผิดกฎหมาย ระเบียบที่ออกมาใช้กับผู้สมัคร ไม่ได้ยังคับใช้กับสื่อ โดยสื่อสามารถรายงาน วิเคราะห์ข่าวได้หมด แต่ให้พึงระวังในเรื่องกฎหมายอื่นที่อาจมีการหมิ่นประมาทได้
ถามว่ากกต. มีกลไกป้องกันการทุจริต การฮั้วกันในการคัดเลือกอย่างไร นายแสวงกล่าวว่า กฎหมายมีการออกแบบมาเพื่อป้องกันการฮั้วอยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีการฮั้ว จากนี้ไปจะมีมาตรการ เมื่อดูจากผู้สมัครที่มีเป็น 100,000 คน ดูเหมือนจะเยอะ แต่เมื่อพิจารณาจาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพ 928 อำเภอ ถ้าคนสมัคร 400,000 คน ระดับอำเภอ จะเลือกแค่ 20 คนเท่านั้น ผู้สมัครสามารถศึกษาประวัติของคนที่จะเลือกในกลุ่มนั้นแค่ 20 คน ระดับอำเภอของตัวเอง ไม่ต้องไปดูอำเภออื่น มาตรการการฮั้วจะมี 2 รูปแบบคือ 1.ทุกคนแลกคะแนนกัน ซึ่งทำไม่ได้อยู่แล้ว เรามีการติดตามข้อมูลทุกกลุ่มไว้แล้ว ไม่ว่าจะทำบนดินหรือใต้ดิน 2.การจัดตั้ง คือการเอาผู้สมัครมาเลือกคนที่จะเป็น ไม่ได้สมัครเพื่อเป็น แต่สมัครเพื่อจะเลือก คือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น