posttoday

เศรษฐา โต้ข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน ชี้บริหารแค่7เดือน ระบุ ทุกอย่างต้องใช้เวลา

03 เมษายน 2567

อภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ชัยธวัช อัด เศรษฐา ผู้นำไร้วุฒิภาวะ ทำลายกระบวนการยุติธรรม เอื้อทุนใหญ่ เศรษฐา แจงไปต่างประเทศบ่อย เผย หลายอย่างทั้งอาเซียนต้องไปด้วยกัน อ้าง รัฐบาลบริหารแค่ 7 เดือน ทุกอย่างต้องใช้เวลา ย้ำ หลังเลือกตั้งมีความก้าวหน้าไปสู่ประชาธิปไตยดีขึ้น

KEY

POINTS

  • วันที่ 3-4เม.ย. มีการประชุมสภาฯ อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152
  • นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวหา การบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐา หลายประเด็น ทั้งในเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม
  • นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ชี้แจงข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน ระบุ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นทำงานให้ประชาชน ชี้ บริหารประเทศ 7 เดือน ทุกอย่างยังต้องใช้เวลา

วันที่ 3 เม.ย. มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152


นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายนำเปิดการอภิปรายทั่วไปรัฐบาลของฝ่ายค้าน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152ว่า หลังการเลือกตั้ง ประชาชนคาดหวังจะได้ผู้นำประเทศคนใหม่ ที่แตกต่างจากผู้นำที่มาจากการรัฐประหาร แต่ได้นายกรัฐมนตรี ที่ไร้วุฒิสภาวะ สับสนว่าตนเอง มีอำนาจใดบ้าง ขาดอำนาจผู้นำในการสร้างความเชื่อมั่นต่อทิศทางรัฐบาล ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่เอื้อประโยชน์ต่อทุนใหญ่ หลายนโยบายอ้างประชาชนบังหน้า เนื้อในมีการฉ้อฉลเชิงนโยบาย เปิดทางให้รัฐมนตรีและพวกพ้อง แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ 

ประชาชนคาดหวังเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม การฟื้นฟูหลักนิติธรรม นิติรัฐ แต่สิ่งที่เกิดขึ้น พบวิกฤตศรัทธาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เต็มไปด้วยระบบตั๋ว และส่วย จนประชาชนไม่สามารถไว้วางใจกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน ความเสมอภาคเท่าเทียมในการบังคับใช้กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ซ้ำเติมวิกฤตศรัทธาในกระบวนการยุติธรรม ที่มีอย่างต่อเนื่องหลังรัฐประหารกรณีที่มีผู้ที่ระบุ ถ้าไม่ชอบกัน ก็ต่างคนต่างอยู่ แต่ประชาชน ต้องการอยู่ในประเทศ หนึ่งระบบ ที่ประชาชนได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเสมอกัน ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน 

นายชัยธวัชอภิปรายว่า ประชาชนหวังเห็นระบบการเมืองที่นำพาประเทศไปข้างหน้า สู่อนาคตที่ดีกว่า แต่ประชาชนกลับได้ประชาธิปไตยแบบไหลย้อนกลับ ที่ผู้นำทางการเมือง ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ลุแก่อำนาจ ได้คืบเอาศอก พยายามผูกขาดอำนาจทางการเมือง และเศรษฐกิจให้อยู่ในมือของคนไม่กี่กลุ่ม พยายามทำลายสิ่งใหม่ๆ เพื่อรักษาสิ่งเก่า ทำให้ประเทศตกอยู่ในสภาพการเมือง ที่ไม่ตอบสนองกับความคิดใหม่ๆ ของประชาชน 
การอภิปรายของฝ่ายค้าน เป็นการทำหน้าที่ของ สส.โดยหวังว่า การซักถามขอเท็จจริง หรือการเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน และการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล  

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงนายชัยธวัชว่า เริ่มต้นมาก็พูดแรงพอสมควรไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ้นหวังล้มเหลวไม่โปร่งใส ไม่ปฏิรูป ถอยหลังวกวนปิดบัง ทำลาย แต่มีอีกด้านหนึ่งเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ มีหวัง สำเร็จ พัฒนาแทนที่จะเป็นปฏิรูป สิ่งต่างๆเหล่านี้ถอยหลังวกวนเราก็เดินหน้าไป ปิดบังเราก็มีความโปร่งใสตนเชื่อว่าหลายๆอย่างที่รัฐบาลนี้ทำอยู่ก็พยายามทำให้เป็นเรื่องบวก เรื่องของอนาคตและแสงสว่างที่ประชาชนจะได้เห็น แต่ก็ไม่เป็นอะไรหากท่านยังมีข้อกังขาทั้งการปิดบัง ไม่โปร่งใส ไม่สำเร็จ ถดถอย ขอให้บอกมา

จากการที่เราทำงานมา 6 เดือน มีการอนุมัติงบประมาณไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มั่นใจว่าทำงานด้วยความซื่อสัตย์โปร่งใส เอาประชาชนเป็นที่ตั้งและพร้อมให้ความกระจ่างต่อสมาชิกที่ยังมีความไม่เข้าใจ กับเรื่องเหล่านี้
ส่วนที่มีการพูดถึงเรื่องหนี้สินที่ยังไม่มีการบริหารจัดการเราก็มีการตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ  หนี้เกษตรกรก็มีการพักหนี้ไปไม่ใช่การเพิกเฉย หรือไม่ได้ดูแลเกษตรกร เรื่องพลังงาน มีการดูแลเรื่องน้ำมันเบนซิน ราคาค่าไฟ ราคาค่าน้ำมันดีเซลด้วยเหมือนกัน ไม่ได้เพิกเฉยหรือนิ่งนอนใจให้ความสำคัญกับประชาชนในแง่ของค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เราตระหนักดีถึงเรื่องนี้ขณะที่การแก้ไขปัญหายาเสพติด มีการทำงานอย่างชัดเจน
เรื่องการท่องเที่ยว ที่ทำให้ประชาชนมีรายได้เข้ากระเป๋ามากยิ่งขึ้น มีการทำอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวีซ่าฟรีของประชาชนคนจีน ต่อมาจีนก็เปิดฟรีวีซ่าให้ไทย ทำให้การค้าระหว่างประเทศนักธุรกิจและท่องเที่ยวเดินทางไปมาหาสู่ได้ดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น 

เรามี สส.อยู่ 314 เสียง ทุกคนก็เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่านเกี่ยวกับเรื่องรายได้ของเกษตรกร ขอให้คิดดูว่าราคายางขึ้นไปจาก 34 บาท 40 บาทจนแต่เกือบ 100 บาท ราคาข้าวก็สูงขึ้นพืชผลอื่นๆก็ดีไม่มีการประท้วง หรือขอร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเพราะอะไร เพราะมีการ เปิดตลาด รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่กำกับดูแลเรื่องนี้อยู่ก็มีการเดินทางไปต่างประเทศเปิดตลาดใหม่เรียกประชุมทูตพาณิชย์ มีการกำหนด KPI ตัววัดที่ชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ไม่เคยมีการทำอย่างนี้ขึ้นมาก่อนในอดีตเรียกพูดพาณิชย์และเอกอัครราชทูตประจำที่ต่างๆมาทำงานกันอย่างบูรณาการ เพื่อให้ราคาพืชผลและสินค้าไทยไปขายยังต่างประเทศดีขึ้น มีการเปิดตลาดใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งเป็นผลในระยะสั้นซึ่งเราได้ทำมา

ส่วนที่ระบุว่า เราไม่มีตัวตนบนเวทีโลก แน่นอนว่าพวกท่านก็บอกว่า ผมเดินทางไปต่างประเทศบ่อย แต่ขอชี้แจงว่า จาก 10 กว่าครั้งเกือบครึ่งหนึ่ง เป็นเรื่องที่เราควรจะต้องไปทั้งอาเซียน มีการประชุมประจำอยู่แล้ว เราก็เป็นน้องใหม่ที่ได้รับเข้าสู่ตำแหน่งจึงจำเป็นต้องมีการพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนนโยบายซึ่งกันและกัน เพื่อให้ประเทศไทยมีตัวตนในเวทีโลก ไม่ว่าจะเป็น เรื่อง World esconomic forum เกิดขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เราไม่มีผู้นำเดินทางไปกว่า 12 ปีแล้ว ประชุมแต่ละอันมีด้วยคุณภาพและขั้นตอนต่อไปที่เราจะสามารถให้ประโยชน์กับประชาชน ทุกคนได้การเจรจาเรื่อง FTA มีผลสัมฤทธิ์ไปแล้วและพวกเรากำลังเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นซึ่งเป็นตัวอย่างคร่าวๆ

“ทุกอย่างต้องใช้เวลา เราเพิ่งบริหารจัดการประเทศเพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น เชื่อว่าทุกท่านทำงานหนักและรัฐมนตรีทุกท่านมีความปรารถนาดีกับประชาชน หากพวกท่านมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆก็ยินดีรับฟังหากมีข้อกล่าวหาอะไรก็ขอหลักฐานขอเหตุผลมา เรื่องของขบวนการยุติธรรมเรื่องของสิ่งต่างๆ เชื่อว่าประเทศไทยหลังจากที่มีการเลือกตั้งผ่านมาก็มีความก้าวหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น คนยินดีรับฟังและรับข้อเสนอแนะจากสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน และรัฐมนตรีทุกท่านก็พร้อมที่จะให้ความกระจ่างกับสมาชิกทุกๆท่านในทุกเรื่อง แต่เป็นเรื่องอะไรที่กล่าวโทษหรือกล่าวหา ก็ขอหลักฐานมาบ้างเราจะได้ไปทำงานกันได้”นายเศรษฐากล่าว