posttoday

ศาลฎีกาฯยกฟ้องยิ่งลักษณ์คดีจัดอีเวนต์240ล.ถอนหมายจับ

04 มีนาคม 2567

ศาลฎีกาคดีอาญานักการเมืองยกฟ้องอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์กับพวก คดีจัดอีเวนต์ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2022พร้อมสั่งถอนหมายจับ

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีที่ อม.2/2565 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี , นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล , นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ , บริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) , บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) , นายระวิ โหลทอง เป็นจำเลยที่ 1-6 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต มุ่งหมายไม่ให้มีการแข่งขันเสนอราคาอย่างเป็นธรรม กรณีการจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2022 วงเงิน 240 ล้านบาท โดยพิพากษายกฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวก และดำเนินการถอดถอนหมายจับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ขณะนี้หลบหนีอยู่ต่างประเทศ
 

โดยศาลฎีกา มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง พิพากษายกฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวกทั้งหมดเนื่องจากไม่พบเจตนาในการเอื้อประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีคำสั่งให้เพิกถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศด้วย 

คดีนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด กล่าวหาว่า ช่วงสิงหาคม 2556 ถึง 21 มีนาคม 2557 จำเลยที่ 1 ถึง 3 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต มุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 อย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้อประโยชน์แก่จำเลยที่ 4 และ 5 ให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ

ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงการสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ....ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ทำให้โครงการ Roadshow ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ เสียหายกว่า 239,700,000 บาท

ก่อนหน้านี้ อัยการสูงสุด เห็นควรไม่สั่งฟ้อง เพราะพบว่า ช่วงหลังจากที่กลุ่มเอกชนประกอบธุรกิจสื่อ ทำหนังสือทวงถามการจ่ายเงินว่าจ้างโครงการฯ นี้ หลังจากที่จัดงานเสร็จสิ้นแล้ว สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตรวจสอบข้อมูลและอ้างว่าการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามระเบียบพัสดุ จึงมีการจ่ายเงินให้ไป ซึ่งคณะทำงานร่วมฝ่าย อสส. เห็นว่าเป็นข้อมูลสำคัญ และทำให้สำนวนการคดีนี้ไม่สมบูรณ์ ก่อนจะมีความเห็นไม่สั่งฟ้องคดี ป.ป.ช.จึงยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง กระทั่งมีคำพิพากษายกฟ้องดังกล่าว