posttoday

"อุ๊งอิ๊ง" เผย ทักษิณนัดทานข้าวเย็นเฉพาะ พ่อ-แม่-ลูก วันนี้

25 กุมภาพันธ์ 2567

"แพทองธาร" เผย อาการ "ทักษิณ" ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นมาก ร่างกายยังทรงๆ อยู่ระหว่างปรับตัว รอพร้อม อยากให้พบลูกพรรค วอนสื่อไม่ต้องพูดเรื่องนายก 2 คนแล้ว ขอให้ "เศรษฐา" ทำหน้าที่ไปหลังถูกกระแสวิจารณ์

เมื่อเวลา 17.00น.วันนี้(25ก.พ.67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และบุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้ามาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อร่วมรับประทานอาหารเย็น กับนายทักษิณ และครอบครัว โดยนางสาวแพทองธาร บอกว่า วันนี้เป็นการทานข้าวกับคนในครอบครัว ทั้งหมด 5คน คือ พ่อ แม่ และลูก3คน ไม่มีเขย สะใภ้ และหลานๆ ซึ่งเป็นแนวคิดของพ่อที่อยากจะย้อนความทรงจำวัยเด็กที่เคยอยู่บ้านหลังนี้ ก็ไม่คิดว่าจะเป็นข่าวด้วย ซึ่งเป็นการทานข้าวกันเฉยๆภายในครอบครัว ไม่มีประเด็นการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะปกติพยายามจะทานข้าวกันสัปดาห์ละ1วันอยู่แล้ว หากวันอาทิตย์ไม่ได้ ก็จะเป็นวันธรรมดา ส่วนเมนูนั้น พ่อเป็นคนเป็นจัดเตรียม และมั่นใจว่าจะเป็นอาหารไทย
 

เมื่อถามถึงอาการของนายทักษิณ นางสาวแพทองธารระบุว่า คุณหมอแนะนำว่าอย่าพึ่งไปไหนให้พักน่าจะดีที่สุด แต่สิ่งที่ตนเองสังเกตุ หลังจากพ่อโทรไปหาคือ “เสียงสดใส ที่อิ๊งไม่ได้ยินมานานจริงๆ เขาสดใสขึ้น และรู้สึกว่าเขาคงสบายใจขึ้น คนเป็นลูกก็ดีใจอยู่แล้วที่เขารู้สึกว่า จิตใจ ในใจเขาดูดีขึ้นเลย เพราะพ่อเป็นคนที่แอ็กทีฟมาก พออยู่ที่เดิมนานๆเขา suffer แน่นอน”
และพ่อได้ขี้นบันไดเป็นครั้งแรก เขาก็บอกว่าเจ็บขา แต่ก็พักและพยายามเพราะถูกจำกัดที่มานาน ก็อยู่ระหว่างปรับตัว แต่จิตใจดี

ทั้งนี้หากเทียบอาการของนายทักษิณวันที่ออกมาจากโรงพยาบาล กับวันนี้ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า อาคารทางร่างกายก็เริ่มดีขึ้นบ้าง แต่จิตใจดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนกรณีโรคเอ็นเปื่อยยุ่ย นั้น เป็นโรคคนแก่ ซึ่งตนเองได้ถามพ่อตอนที่เอ็นหลุดแล้วหมอให้ผ่าตัด ซึ่งพ่อบอกว่าแค่คว้าหยิบของ เอื้อมเร็วๆเท่านั้น ไม่ได้มีการล้มใดๆ ซึ่งเป็นโรคคนแก่ ก็สงสารพ่อเพราะผ่าตัดนาน


ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดง อยากเจอนายทักษิณนั้นมีแผนที่จะให้เข้าพบอย่างไรหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนอะไรออกมา แต่คิดว่าพ่อคงอยากเจอแน่นอน สำหรับคนที่เคยสนับสนุนพ่อ ไม่ว่าตะเป็นคนเสื้อแดง หรือใครก็ตาม รวมถึงญาติๆหลายๆคนซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้เจอ ซึ่งยังไม่ทราบแพลนอย่างไรบ้าง และคิดว่าถ้าพ่อโอเคเมื่อไรก็คงจะทยอยเจอ ขณะที่สัปดาห์หน้าจะเปิดให้ใครเข้าเยี่ยมมากขึ้นหรือไม่นั้น ตนเองก็ยังไม่ทราบคิวเช่นกัน และยอมรับว่า ส่วนตัว ที่ยังไม่ได้เปิดบ้านให้ใครเข้าพบพ่อ เพราะแอบห่วงเรื่องการติดไข้ อย่างตนเองและสามีเป็นไข้หวัดที่ไม่เหมือนกันได้เชื้อคนละตัว ซึ่งก็เป็นคนหนุ่มสาวที่แข็งแรงยังติดไข้ จึงอยากให้รอสักพักให้พ่อภูมิคุ้มกันดีๆก่อน เพราะหากติดมาจะได้ไม่ทรุดมาก ถ้าคนเยอะๆอาจจะยังไม่ให้เจอก่อน


เมื่อถามว่านายทักษิณมีแพลนจะทำอะไรในเรื่องการเมืองบ้างหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ยังไม่ได้พูดอะไรเรื่องการเมือง แต่ตนเองในฐานะพรรคเพื่อไทย ตนเองอยากให้คุณพ่อได้เจอคนในพรรคบ้าง เป็นการเจอแบบในเรื่องทางจิตใจ เพราะทุกคนและคนในพรรคก็คิดถึง จึงอยากให้พ่อได้เจอ ส่วนจะเมื่อไรยังไม่ทราบ คงต้องรอก่อนเพราะยังไม่รีบ ส่วนจะเจอที่พรรคหรือให้ลูกพรรคมาหาที่บ้านนั้น ตนเองก็ไม่ติดให้พ่อเป็นคนเลือกที่พ่อสะดวก แต่ก็แนะนำว่าอยากให้เจอเพื่อให้กำลังใจกัน และเป็นกำลังใจให้รัฐบาล แต่ถ้าพ่ออยากไปพรรค ก็จะได้ไปดูว่าตนเองนั่งทำงานตรงไหนด้วย เพราะพ่อไม่ได้เห็นมานานแล้ว
  

ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาพบเมื่อวานนี้ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ตนเองก็ไม่รู้ล่วงหน้า รู้ตอนที่มาแล้ว ก่อนหน้านี้ นายกเคยบอกว่า ไว้มีโอกาวจะมาเยี่ยมแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเลย นักข่าวยังรู้ก่อน

 

สำหรับแขกที่พ่ออยากเจอมากที่สุด มองว่า คงเป็นญาติๆ แต่ไม่แน่ใจว่าพ่อจะนัดอย่างไร เพราะไม่ได้เจอหลายคน  และวันนี้ที่ทานข้าวกัน คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ก็มาร่วมรับประทานอาหารด้วย

 

นักข่าวถามอีกว่า กรณีมีการวิพากวิจารณ์ว่ามีนายกรัฐมนตรี2คน คือนายเศรษฐา และ นายทักษิณ นั้น อยากให้สยบข่าวนี้ นางสาวแพทองธาร ถอนหายใจเสียงดัง พร้อมระบุว่า “ตอนที่คุณเศรษฐาพึ่งขึ้นตำแหน่ง แล้วอยู่กับอิ๊ง ก็บอกเป็นนายก2คน อยู่กับพ่อก็บอกเป็นนายก2คน ให้คุณเศรษฐาทำหน้าที่ของคุณเศรษฐาไปดีหรือไม่ ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้วมั้ย มีนักข่าวพูดขึ้นว่า ตอนนี้เป็น3คนแล้ว นางสาวแพทองธาร ถอนหายใจอีกครั้ง แล้วตอบว่า “อิ๊งเป็นแม่ที่ลูกเป็นไข้อยู่” เสาร์อาทิตย์นี้ก็อยู่โรงพยาบาลไม่ได้ไปไหน สดใสแล้วได้กลับมาบ้านนี้

 

นางสาวแพทองธาร ยังฝากแจ้งสื่อมวลชนด้วยว่า ไม่อยากให่มารอที่บ้าน เพราะหากจะมีวีไอพีมาเยี่ยมนักข่าวจะทราบก่อนอยู่แล้ว และหาดมีวีไอพีมาค่อยมาดีกว่าหรือไม่ เพราะซอยค่อนข้างเล็ก มีชาวบ้านเดินทางไปมา อาจจะสร้างความลำบาก จึงอยากให้มาเฉพาะวันที่มีวีไอพีมาดีกว่าจะได้ไม่รบกวนกัน พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาเกาะติดเฝ้าทำข่าว ในสภาพอากาศที่รัอน