ตำรวจขยายผลคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าวโยงฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 29ม.ค.2567 ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนคดี นายศรีสุวรรณ จรรยา นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติและน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ร่วมกันข่มขู่เรียกรับเงิน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท แลกกับการไม่ร้องเรียนโครงการทุจริตโดยเชิญ เจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) และเจ้าหน้าที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)เข้ามาร่วมประชุมด้วย
 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ได้เรียกเจ้าหน้าที่จาก2หน่วยงานมาเข้าร่วมเป็นคณะทำงานเพื่อพิจารณาว่าคดีนี้เข้าข่ายมูลฐานความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วยหรือไม่ จะดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง และจะเดินหน้าสืบสวนสอบสวนในทุกมิติ

“เต็มที่ เดินเต็มร้อย เต็มสูบ ถ้าเครื่องไม่พังก่อน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว 

ภายหลังการประชุม โดยใช้เวลาราว 1ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า การรวบรวมพยานหลักฐานมีความคืบหน้ามากอธิบดีกรมการข้าวที่ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีจึงมีความมั่นใจในพยานหลักฐาน ทั้งคลิปเสียง-วีดีโอระบุถึงพฤติการณ์ของขบวนการนี้ได้ว่า มีการวางแผนทำเป็นขั้นตอน ทั้งคนชี้เป้า คนเสิร์ฟข้อมูล คนเคลียร์ คนรับเงิน และยังพบผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายคน ซึ่งจะต้องเรียกเข้ามาสอบปากคำด้วย 

"เชื่อว่าน่าจะมีผู้สั่งการในระดับที่สูงขึ้นไปอีกนอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำจริงๆผมอยากได้ปลาใหญ่กว่านั้นดูสิปลาใหญ่ จะทำอย่างไรบ้างแต่ไม่ขอตอบว่า ปลาใหญ่เป็นนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐ"พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว 
 
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า มีข้อมูลว่ามีหน่วยงานอื่นที่ถูกเรียกรับทรัพย์จากกลุ่มนี้ในระดับร้อยล้านบาท แต่ยังไม่มีการจ่ายเงิน ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานว่าจะเข้ามาให้ข้อมูลหรือไม่ เพราะกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากเรื่องของอธิบดีกรมการข้าวเป็นเรื่องหนึ่ง หากมีเรื่องอื่นเราก็จะเปิด เพราะพวกนี้เป็นภัยสังคม ที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายทำให้เกิดความเสื่อมเสียเกียรติยศของหน้าที่ราชการ

“ผมในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่า กลุ่มคนพวกนี้มีพฤติกรรมในการรีดทรัพย์จากกลุ่มต่างๆ ทั้งเอกชน และข้าราชการที่เขามองว่าสามารถทำได้ พวกมิจฉาชีพพวกนี้ มีทั้งบนท้อถนน เช่น พวกตบทองต้องทีคนทำทองหล่น แล้วไปเจอทองต้องมีการเจรจาอันนี้ก็เหมือนกัน มีคนทำเรื่องมาส่งให้คนร้อง คนร้องไปหาคนเคลียร์ คนเคลียร์ไปหาคนร้อง มีบัญชีมัา เป็นการทำงานแบบปลาเล็กปลาใหญ่คนพวกนี้ การกระทำกันจนย่ามใจไม่รู้ว่าขอบเขตของกฎหมายเป็นอย่างไร และบางคนในทรัพย์สินร่ำรวย มีบ้าน 10 หลัง มีที่นาเป็น 100 ไร่ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป”

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังยืนยันด้วยว่า ชุดพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับแรงกดดันจากฝ่ายการเมืองมา แต่อย่างใดและ ยังไม่มีใครติดต่อมา หากมีก็รับมาตรา 157 ไปก่อน 

ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่า มีการลาออกจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้ทนายความของผู้เสียหายก็เป็นห่วงเรื่องการดำเนินคดี ตามข้อกล่าวหาพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า เป็นเรื่องของรองนายกฯ หรือเลขาที่ออกมาพูดเป็นสิทธิที่จะพูดอะไรก็ได้แต่เราในฐานะคณะพนักงานสอบสวนเรากำลังเดินอยู่บนพื้นฐานของหลักฐานและข้อเท็จจริง ผู้ต้องหาหรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะพูดยังไงเราก็รับฟังแต่จะไม่เดินนอกเหรือจากพยานหลักฐานที่มีถ้าคิดว่ามีหนังสือยกเลิกก็ส่งมาเราก็จะรับฟัง.