posttoday

ด่วน! มติศาลรธน.วินิจฉัย"พิธา"รอดคดีถือหุ้นiTV

24 มกราคม 2567

มติศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก วินิจฉัยการถือครองหุ้นiTVของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ได้ทำหน้าที่สส.ในสภาต่อ จับตากลับไปทำหน้าที่หัวหน้าพรรคก้าวไกล

เมื่อวันที่ 24ม.ค.2567 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ องค์คณะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา  82 ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์  อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา  101 (6)    ประกอบมาตรา  98 (3) หรือไม่ โดยมติเสียงข้างมาก เห็นว่า การถือครองหุ้นสื่อของนายพิธา ไม่ขัดต่อต่อรัฐธรรมนูญเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายพิธาไม่สิ้นสุดลงด้วยเหตุบริษัทไอทีวีไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ 

ศาลรัฐธรรมนูญ ระบุในคำวินิจฉัยว่า แม้ iTV จะได้ยุติกิจการและอยู่ระหว่างข้อพิพาทในคดีกับสำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรี  iTV ได้เคยทำสัญญาเข้าร่วมงานกับสำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2538 ระยะเวลา 30 ปี

ต่อมา สำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งมายัง สปน.แจ้งบอกเลิกสัญญาและ iTV ได้แจ้งไปยังสำนักงานประกันสังคมว่า ไม่มีพนักงาน เนื่องจากยุติการดำเนินกิจการชั่วคราว ตั้งแต่ 8 มีนาคม 2550 จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากติดคดีและงบการเงินของบริษัท

iTV เคยดำเนินดำเนินกิจการสื่อโทรทัศน์ โฆษณา แต่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรียกเลิกสัญญาแล้ว จึงไม่ได้ดำเนินการดังกล่าว และบริษัทลูกก็ได้ยุติการดำเนินกิจการไปด้วย แต่เพื่อพิจารณาเอกสารภาษีเงินได้ พบงบการเงิน และรายได้จากธุรกิจสื่อมวลชนเป็น 0 บาท และมีรายได้จากดอกเบี้ยรายรับ 

 

บริษัทไอทีวีฯ จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินกิจการสื่อโทรทัศน์ รายการ และโฆษณา เป็นสื่อกลางในการส่งข่าวสารไปสื่อมวลชนได้เป็นการทั่วไปแต่เมื่อแบบงบการเงิน ตั้งแต่ปี 2560-2565 ปรากฏข้อมูลที่สอดคล้องว่า iTV ยุติการดำเนินกิจการตั้งแต่สำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรี บอกเลิกสัญญา ทำให้คลื่นสัญญากลับมาเป็นของสำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรี และiTVไม่สัญญาณว่าจะดำเนินกิจการได้ต่อไป จนเกิดข้อพิพาทกับสำนักปลักสำนักนายกรัฐมนตรี

ดังนั้น เมื่อวันที่นายพิธา ลงสมัครรับเลือกตั้ง บริษัท iTV ไม่ได้ประกอบกิจการสื่อมวลชนใด ๆ การถือหุ้นของนายพิธาจึงไม่มีลักษณะต้องห้ามและสามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงวินิจฉัยว่า สมาชิกภาพ สส.ของนายพิธา ไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 

คลิ๊กอ่านคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ ฉบับเต็ม

ขณะที่ นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ชี้แจงสาเหตุความล่าช้าของคดีนี้ว่า ศาลฯ เคยแจ้งคู่ความในคดีนี้ ให้ทราบว่า ผู้ถูกร้อง หรือนายพิธา ได้ขอขยายเวลาการชี้แจงต่อศาล 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน รวม 60 วัน ทั้งที่คดีดังกล่าว ควรเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ 60 วันที่แล้ว โดยยืนยันว่า ศาลไม่ได้ล่าช้า และยังตำหนิการแสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีในผ่านสื่อมวลชน ซึ่งถือว่า เป็นการกระทำที่ไม่สมควร และไม่เหมาะสม เพราะอาจเป็นการชี้นำกดดันศาลได้

ก่อนนี้ นายพิธา เคยให้สัมภาษณ์พิเศษผ่านรายการ"เนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก."ดำเนินรายการโดย นายสมชาย มีเสน นายวีระศักดิ์ พงษ์อักษร และนายบากบั่น บุญเลิศ 3 บรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น เผยแพร่ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 ในประเด็นถือหุ้นสื่อ ว่า “หากศาลตัดสินออกมาเป็นคุณ จะทำหน้าที่ต่อในสภาฯ ส่วนจะกลับไปเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกลอีกครั้งหรือไม่ นายพิธาแล้วแต่สมาชิกพรรคที่จะมีการประชุมใหญ่ช่วงปลายเดือน เม.ย.2567

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทันทีที่นายพิธารอดคดีถือหุ้น iTV จะกลับไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลและจะแต่งตั้งให้ นายชัยธวัช ตุลาธน กลับมาทำหน้าที่เลขาธิการพรรคอีกครั้ง

ข่าวล่าสุด

ประเสริฐยันจบด้วยดี “ไชยา” ลาเพื่อไทยเหตุจำเป็นการเมือง