2บก.เครือเนชั่น ชวนจับตา 2คดี ชี้ชะตา พิธา -ก้าวไกลแก้112 ลามยุบ ไม่ยุบพรรค
2 บก.เครือเนชั่น วิเคราะห์ จับตา 2 คดีสำคัญ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ถือหุ้นไอทีวี พรรคก้าวไกล หาเสียงแก้ม.112 ศาลไต่สวน พิธา 20ธ.ค. พยานสำคัญ คิมห์ ส่งผลต่อชะตาพิธา ส่วน ก้าวไกลหาเสียงแก้112 ไม่กระทบถึงยุบพรรค เหตุคำร้องแค่ให้หยุดการกระทำ ชี้ หลังปีใหม่67 ได้คำตอบชัดทั้ง2คดี
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคและอดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล แม้ในวันนี้ ถูกคำสั่ง หยุดปฏิบัติหน้าที่สส. และยังต้องเผชิญกับผลพวงคดีในอดีต อย่างน้อย 2 คดี
พิธา ถูกร้อง ถือครองหุ้นสื่อ บริษัทไอทีวี ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อสารมวลชนใด อยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนต่อ ในวันที่ 20 ธ.ค.66
คดี พรรคก้าวไกล ถูกร้อง เสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ..เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่
ศาลได้นัดไต่สวนต่อวันที่ 25 ธ.ค.66
แม้จะยังไม่แน่ชัด ศาลรัฐธรรมนูญ จะไต่สวนไปอีกกี่นัด และจะนัด พิพากษาคดีทั้ง 2 อีกเมื่อไหร่ จะเป็นไปในเดือน กุมภาพันธ์2567 อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์หรือไม่ และจะส่งผลกระทบเป็นเชิงบวก หรือ เชิงลบต่อ พิธา และ พรรคก้าวไกล ยังเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าตามติดกันต่อไป
ขณะเดียวกันในรายการเนชั่นอินไซต์ วันที่ 18ธ.ค. จัดรายการโดย นายสมชาย มีเสน และ นายวีรศักดิ์ พงษ์อักษร 2 บรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น ร่วมกันวิเคราะห์ถึงเรื่องดังกล่าว จะส่งผลต่อ พรรคก้าวไกล และทิศทางการเมืองไทยอย่างไร
“ทั้ง 2 คดีของนายพิธาและพรรคก้าวไกล น่าจะตัดสินหลังคดีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรมว.คมนาคม คือ หลังวันที่ 17ม.ค.67 ไปแล้ว ประเด็นการถือครองหุ้นมรดกของนายพิธา ศาลจะดูจากเอกสาร ไม่รู้ว่า ในใบหุ้นได้วงเล็บไว้หรือไม่ว่า นายพิธา เป็นผู้จัดการมรดก แต่ถึงจะโอนให้น้องได้ ต้องนำมาแจ้งศาล
การถือครองหุ้นไอทีวี ยังเป็นสื่อหรือไม่ คนที่อธิบายมีส่วนสำคัญทางคดีคือ นายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานไอทีวี ศาลคงจะถามว่า ไอทีวี ยังทำสื่อหรือไม่ แม้ก่อนหน้า สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.) เคยสั่งให้ ไอทีวี ยุติการออกอากาศ แต่ต่อมาไอทีวี ไปฟ้องร้องว่า คำสั่งนี้ขัดต่อคำสั่งทางปกครองหรือไม่ เพราะไอทีวี ไม่ได้เลิกกิจการ เพียงแค่ พักกิจการเท่านั้น
หากนายพิธาไม่ผิด นายชัยธวัช ตุลาธน อาจจะลาออกจากหัวหน้าพรรค และให้นายพิธา ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้งก็เป็นได้
กรณีนี้ต้องไปดูว่า ถ้าไอทีวีบอกว่า ตั้งใจทำสื่อต่อ จะเป็นอย่างไร หัวใจสำคัญคือ วันที่ พิธา สมัครสส.พรรคก้าวไกล ไอทีวี ยังทำสื่อหรือไม่ เรื่องนี้ แม้นายพิธา บอกว่า มั่นใจ100เปอร์เซ็นต์ พร้อมจะชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนการเป็นผู้จัดการมรดก ก็มีหลักฐานที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน พร้อมจะไปเปิดเผยต่อศาล ซึ่งคดีถือหุ้นสื่อ พิธา ถ้าดูจากข้อมูล ได้ลุ้นเยอะว่า จะรอดหรือไม่รอด
คดีแทบไม่ต้องลุ้น ต้องสอบไต่สวนคือ คดีที่พรรคก้าวไกล แก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ วันที่ 25 ธ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ จะไต่สวนพยาน 6 ปาก มีการมอง เหตุผลสำคัญ อาจไม่ยุบพรรค เนื่องจากในคำร้อง ไม่ได้บอกให้ยุบพรรค บอกเพียงว่า ให้หยุดการกระทำเท่านั้น ไม่ได้บอกให้ยุบพรรค ศาลหากวินิจฉัย ก็วินิจฉัยตามคำร้องเท่านั้น ถ้าผิด ก็บอกให้หยุดการกระทำเท่านั้น แต่ถ้าไม่ผิด พรรคก้าวไกล หรือ พรรคอื่น ก็นำเรื่อง112 ไปหาเสียงได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา211 วรรคสี่ ระบุ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ผูกพันทุกองค์กร ทั้งนี้ ในกรณีนี้ถ้าไม่ผิด ก็จบเลย ทุกพรรคก็นำไปหาเสียงได้”
