posttoday

'ภูมิธรรม'รับเพื่อไทยสะดุดนิรโทษกรรมฉบับก้าวไกล

04 ธันวาคม 2566

'ภูมิธรรม'แจงเพื่อไทยเสนอร่างกม.นิรโทษกรรมประกบคู่ฉบับก้าวไกลเป็นฉันทามติสังคมที่ยังสะดุดนิรโทษคดีม.112 พร้อมขอรอดูในรายละเอียดปมรวมไทยสร้างชาติคาใจคดีทุจริตและการชุมนุมทางการเมืองปี53

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ประกบคู่กับร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคก้าวไกลว่า เรื่องดังกล่าวขณะนี้ เป็นฉันทามติของหลายส่วนงานแล้วว่า ต้องการเห็นการนิรโทษกรรม และการแก้ปัญหา แต่ประเด็นการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นข้อขัดแย้งที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ ซึ่งหลายพรรคการเมือง ก็ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคก้าวไกล และความเห็นในสังคม ก็ยังไม่มีข้อยุติ ฉะนั้น จึงต้องหาข้อยุติให้ได้ก่อน ส่วนจะเสนอร่างประกบกันอย่างไรก็ต้องพิจารณาอีกที

ส่วนมีการนิรโทษกรรมความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พรรคเพื่อไทย ก็จะไม่เห็นด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่า พรรคเพื่อไทย ยืนยันชัดเจนแล้วว่า เรื่องใดที่เป็นความขัดแย้งในสังคม ต้องมีข้อยุติก่อน ซึ่งถ้าทุกภาคส่วนมีความชัดเจนว่า ทุกคนเห็นด้วย และเข้าใจ ก็พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว เพราะพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการเห็นการสร้างความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ 

ส่วนกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติยังติดใจเรื่องคดีทุจริต และการชุมนุมทางการเมืองเมื่อเดือนเมษายน 2553 พรรคเพื่อไทยยังคงติดใจใด ๆ หรือไม่  นายภูมิธรรม ระบุว่า จะต้องรอดูในรายละเอียดว่า มีเหตุมีผลที่สมควรหรือไม่ 

นิรโทษกรรมต้องลดข้อจำกัดความขัดแย้งรอบใหม่

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  ในฐานะสส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณี พรรคเพื่อไทยเสนอพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกบร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับพรรคก้าวไกล ว่า ก็ขึ้นอยู่กับทาง ฝ่ายกฎหมายและผู้บริหารว่าเห็นควรอย่างไร จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเสนอเป็นร่างของพรรค ซึ่งก็ต้องไปพิจารณาในรายละเอียด เนื่องจากเนื้อหาสาระของแต่ละร่าง อาจแตกต่างกัน ก็เป็นกลไกของสภาว่าจะใช้ร่างใดเป็นหลัก 

ส่วนในพรรคเพื่อไทยมีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายแพทย์ชลน่านระบุว่า เท่าที่ทราบยังไม่น่ามีการพูดคุยกัน น่าจะเป็นแนวคิดของเลขาธิการพรรคที่อาจจะมีการนำเสนอ 

เมื่อถามว่าส่วนตัวคิดว่าการทดกรรมจะสามารถเดินต่อไปได้หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน ตอบว่าจะไปได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่จะจะต้องดำเนินการ ถ้าเป็นสิ่งที่ได้ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งก็ไปได้ หากเกิดประโยชน์โดยรวม แต่หากเป็นความเห็นที่นำไปสู่ความขัดแย้ง การนิรโทษกรรมก็จะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งก็ต้องลดข้อจำกัดลง