'ธรรมนัส'ตั้งทีมปราบหมูเถื่อนส่งชื่อขรก.การเมืองใหญ่มีเอี่ยวให้ป.ป.ช.

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร้อยเอกธรรม​นัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง  พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง.  พันตำรวจตรีสุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์และที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและการจัดเก็บภาษีกรมศุลกากร ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการปราบปรามหมูเถื่อน

ร้อยเอกธรรมนัส​ กล่าวว่า​ ได้มีการตั้งปฏิบัติการพิเศษ ประกอบไปด้วยหลายหน่วยงาน มีอำนาจสามารถจับกุมตรวจค้นได้ทันทีโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคระบาด ส่วนคดีต่างๆ การทำงานแบบบูรณาการระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์​ กรมศุลกากร​ และหน่วยงานอื่นๆ ทำอย่างจริงจังจนเป็นคดีพิเศษ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจ

ขณะที่อธิบดีดีเอสไอ​ กล่าวว่า​ กรมศุลกากรได้ส่งของกลางหมู่เถื่อน 160 ตู้​ ได้ให้ DSI พิจารณาเป็นคดีพิเศษ ซึ่งในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการเร่งรัดการดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยบูรณาการทั้งหมด ผลการดำเนินการสืบสวนสอบสวนมีพยานหลักฐาน ที่น่าเชื่อว่ากลุ่มขบวนการ เป็นองค์กรอาชญากรรม​ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพของเกษตรกร ซึ่งในองค์กรอาชญากรรมนี้ ประกอบไปด้วยกลุ่มนายทุน กลุ่มข้าราชการ กลุ่มข้าราชการฝ่ายการเมือง​ ซึ่งในข้อเท็จจริงของการดำเนินคดี​ โดยจะมีการเอาผิดกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องทั้งหมด​ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับบุคคลใด​ หรือระดับใด หรือเป็นผู้มากอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ 
 

นอกจากนี้ในเรื่องของการดำเนินการในคดีที่ยังค้างอยู่ได้มีการดำเนินการควบคู่ไปกับการดำเนินการของฝ่าย ปปง. ยึดทรัพย์คู่ขนานไป โดยขณะนี้มีผู้ต้องหามอบตัวอีก 1รายซึ่งสัปดาห์ถัดไปจะเห็นความคืบหน้า​ในตัวละครที่มีความต้องการหมูเถื่อน​ พร้อมยืนยันว่า เราไม่เอาไว้​ ถึงเป็นใครก็ต้องดำเนินการทั้งหมด

ด้านรองเลขาฯ ปปง.​ กล่าวว่า​ ได้มีการยึดทรัพย์กลุ่มแรกซึ่งเป็นนอมินีและบริษัทชิปปิ้ง 8 บุคคล 6 บริษัท รวมไปถึงได้มีการประสานกับ DSIในการดำเนินการยึดทรัพย์กลุ่มต่อไปและดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องสำคัญรับโอนเงิน​ รับผลประโยชน์จากผู้กระทำความผิดในกลุ่มที่ ปปง.ดำเนินการทางแพ่งและยึดทรัพย์​ โดยขณะนี้อยู่ในชั้นศาลซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้อง​ จะต้องมาชี้แจงกรณีการได้มาซึ่งทรัพย์เพื่อคุ้มครอง​อาหาร​ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์​ หรือสินค้าทางการเกษตรของประชาชนให้ได้ราคาที่เหมาะสม และไม่ให้มีการนำเข้าจากต่างประเทศมาทำลายราคาสินค้าในประเทศให้ตกต่ำ

ด้านที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี​ กรมศุลกากร​ ระบุว่า ได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นในการลักลอบนำเข้าส่งออก หรือหลีกเลี่ยงการสำแดงเป็นอย่างอื่นบูรณาการกับหน่วยงานด้านเกษตรในพื้นที่ ซึ่งหากมีข้าราชการใดเข้าไปเกี่ยวข้อง​ จะมีการโยกย้าย ตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบหาผู้กระทำความผิด ขณะที่ตามแนวชายแดน นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการเรื่องยางเถื่อน​ ซึ่งกรมศุลกากรได้ลงไปดูและกำชับพื้นที่ให้บูรณาการกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อเข้มงวดกวดขันตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดูในพื้นที่นั้นๆ และอาจเข้าไปเกี่ยวข้อง หากมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เมื่อถามว่าข้าราชการการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องคือใคร​ อธิบดี DSI ระบุว่า​ เป็นอดีตข้าราชการการเมือง​ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านข้อกฎหมายในเรื่องนี้ และเป็นกรอบภารกิจอำนาจหน้าที่ที่ทาง DSI จะต้องส่งไปยัง ป.ป.ช. รายละเอียดต่างๆจึงห้ามเปิดเผย โดยยืนยันว่า DSI จะดำเนินการทั้งหมด​ ไม่ว่าจะเป็นใคร โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งไปในสำนวน 

ส่วนจะใช้เวลาเท่าไหร่นั้น​ อธิบดี​ DSI กล่าวว่า​ ไม่ขอก้าวล่วงในอำนาจของสำนักงาน ป.ป.ช แต่ DSI ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ส หาก ป.ป.ช.จะประสานส่งกลับให้ทาง DSI ดำเนินการต่อ ก็ เป็นไปตามกรอบอำนาจที่ทาง ป.ป.ช.สามารถดำเนินการได้ 

ส่วนข้าราชการที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องมีจำนวนเท่าใดนั้น​ อธิบดี​ DSI  กล่าวว่า มีจำนวนพอสมควร พร้อมกับย้ำว่าเรื่องทุกอย่างทาง DSI จะทำอย่างตรงไปตรงมา และเชื่อว่าในท้ายที่สุด​ สังคมจะต้องรู้ความจริง ว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง แต่ในชั้นนี้ขอสงวนไว้ก่อน

เมื่อถามย้ำถึงความชัดเจนของผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความชัดเจน​ อธิบดี DSI ชี้แจงว่า กรอบอำนาจหน้าที่​ เมื่อถึงใครก็จะมีการขยายผลไปมากกว่านั้น  แต่ในส่วนของข้อกฎหมายมีความจำเป็นที่ในเมื่อส่งสำนวนไปยัง ป.ป.ช.แล้ว​ ไม่อาจเปิดเผยในรายละเอียดได้ แต่ข้อเท็จจริงทุกรายละเอียดได้มีการ นำเรียนผู้บริหารสูงสุดไว้แล้ว

ส่วนเป็นข้าราชการและข้าราชการการเมืองที่เกี่ยวข้องมีจำนวนเท่าใดนั้น​ อธิบดี ​DSI กล่าวว่า เป็นอดีตข้าราชการในหลักสิบคน ข้าราชการการเมือง ในระดับต้นๆยังไม่ถึง 10 คน มีกลุ่มนายทุน​ กลุ่มบริษัทที่เข้ามาดำเนินการร่วมด้วย​ ซึ่งตนมองว่าเป็นแค่ชั้นต้น ที่ DSI ส่งไปยัง ป.ป.ช.แต่ความผิดในลักษณะแบบนี้ และข้าราชการในฝ่ายการเมืองดำเนินการในลักษณะนี้ไม่ได้​ หากไม่มีความต้องการหมูเกิดขึ้น​  เชื่อได้ว่าจะต้องดำเนินการกับข้าราชการที่เกี่ยวข้อง​ตามขั้นตอนของกฎหมาย​ ตนทราบดีว่าสร้างผลกระทบอย่างรุนแรง​ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร​ ซึ่งตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา​ DSI​ เร่งดำเนินการอย่างเต็มที่และเต็มกำลัง  ตนต้องการจับผู้กระทำความผิด​ และต้องการสาวให้ถึงเจ้าตัวผู้กระทำความผิด​ พร้อมกับระบุว่าภายในต้นปี​ 67 เรื่องคลี่คลาย​ และตนยอมไม่ได้​กับเรื่องนี้

ส่วนหากประเมินสถานการณ์จะสามารถสาวตัวไปยังข้อมูลตัวคนผิดได้หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า​ ณ​ เวลานี้กลุ่มผู้กระทำความผิดที่มีการออกหมายจับและหมายค้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว​ และมอบตัว ฝสักทอดไปยังกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 ซึ่งขณะนี้ DSI ส่งข้อมูลไปยังป.ป.ช.  ถึงระดับนักการเมืองใหญ่ส่วนรายละเอียดชื่อต่างๆ​ มีกฎหมายายคุมครองอยู่จึงไม่สามารถเปิดเผยได้​ ส่วนผู้กระทำความผิดรายย่อยก็จะถูกดำเนินคดีทุกคน​  

เมื่อถามว่านักการเมืองใหญ่มีตำแหน่งอยู่ในขณะนี้หรือไม่​ ร้อยเอกธรรมนัส​  กล่าวว่า​ เอาเป็นว่ายังเป็นนักการเมืองใหญ่​ อยู่ในกลุ่มการเมือง​ กลุ่มพ่อค้า​ 

เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวนักการเมืองชื่อย่อ​ ป.ปลา​ ใช่หรือไม่​ ร้อยเอกธรรมนัส​ รีบปฏิเสธการตอบคำถามในทันที​ ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า​ อย่าเอ่ยชื่อ​ ผมไม่อยากขึ้นศาล​ตอนนี้​

ร้อยเอกธรรมนัส​ กล่าวว่า​ สิ่งสำคัญที่สุด ได้รับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีให้ set Zero ห้องเย็น​ ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด​ หลังจากนี้ไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม หากไม่มาขึ้นทะเบียน ถือว่าเป็นผู้ประกอบการห้องเย็นเถื่อน ถูกดำเนินคดีทางอาญาทันที​

ขณะที่การทำลายของกลางหมูเถื่อน 161 ตู้ จะทำลายที่ไหนอย่างไรนั้น ร้อยเอกธรรมนัส​ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการทำลายเกิดความไม่ไว้วางใจจากประชาชน​ ว่าจะไปทำลายสิ่งแวดล้อมหรือไม่​ เราเข้าใจความรู้สึกของประชาชน​ แต่สิ่งสำคัญที่สุดต้องยอมรับว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลัง พอรู้ว่าเราจะทำลายสินค้าหมูเถื่อนก็จะมีกระบวนการ ที่ทำให้เราไม่สามารถนำไปฝังกลบหรือทำลายได้​ ดังนั้นที่ผ่านมาที่เงียบไปไม่ใช่ว่าเราไม่ทำตนทำและสั่งให้มีการบันทึกวีดีโอทั้งหมด โดยสิ้นเดือนจะเปิดเผยในรายละเอียด ยืนยันว่ามีคณะกรรมการตรวจสอบทั้งหมด​ บางครั้งเรื่องนี้จะต้องสงวนเป็นชั้นความลับ​ เนื่องจากเมื่อเปิดเผยแล้วจะเกิดอุปสรรค

ขณะที่มีการตั้งคำถามถึงกรมศุลกากร จะดำเนินการอย่างไรให้รัดกุมเนื่องจากที่ผ่านมามีการลักลอบนำเข้าจำนวนมาก กรมศุลกากรชี้แจงว่า​ กรมศุลกากร​ตระหนักดี ปัจจุบันสินค้าที่เป็นสินค้าแช่เยือกแข็งจะทำการตรวจทุกตู้สินค้า ซึ่งมีการนำเข้าส่งออกปีละ 11 ล้านตู้ ไม่ได้ตรวจทุกตู้​ เมื่อมีการสำแดงสินค้าเป็นประเภทอื่น และมีใบอนุญาตมาหากเปิดตู้เย็นจะเสียอุณหภูมิ​ ทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้รับความสะดวก​ จนถูกร้องเรียน​ 

โดยในช่วงท้าย​ ร้อยเอกธรรมนัส​ กล่าวว่า เราได้ดำเนินการสาวถึงต้นตอแล้ว​ ส่วนชื่อหรือรายละเอียด​ ยังไม่สามารถเปิดเผยตรงนี้ได้ และคิดว่าอีกไม่นานสื่อมวลชนจะรู้​