'รังสิมันต์ โรม'หารือ'บิ๊กทิน'เสนอกองทัพจัดซื้ออาวุธอื่นแทนเรือดำน้ำ

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธานกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรเข้าพบนายสุทิน คลังแสงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อหารือปัญหาความมั่นคงของประเทศ เรื่องเรือดำน้ำ นโยบายด้านการจัดซื้ออาวุธต่างๆ การป้องกันปัญหาชายแดน

นายรังสิมันต์ เปิดเผยก่อนเข้าหารือว่า การมาพบวันนี้ ไม่ได้จำกัดว่าคำถามจะอยู่แค่เรื่องใด แต่อยากมาทำความเข้าใจของทัพ กระทรวงกลาโหมมากขึ้น เพื่อนำไปอธิบายให้ประชาชนว่าทิศทางความมั่นคงของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร รวมถึงเพื่อทำความเข้าใจและสนับสนุนการทำงานของกระทรวงกลาโหมให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหวังว่าจะมีความเข้าใจที่ดีต่อกัน ช่วยกันทำงานในอนาคตข้างหน้า หากมีเหตุอะไรที่ต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานความมั่นคง อาจจะสามารถลดขั้นตอน และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที เช่นเรื่องปัญหาชายแดน ถือเป็นปัญหาที่ท้าทายต่อความมั่นคงของประเทศ

ขณะที่นายสุทิน เปิดเผยภายหลังการหารือว่า นายรังสิมันต์ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงได้มาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งทุกกองทัพได้เดินทางเข้ามาร่วมหารือโดยการพูดคุยเป็นไปด้วยไมตรี โดยกรรมาธิการได้สอบถามถึงภารกิจหลายเรื่องที่มีผลกระทบกับประชาชนซึ่งทางผู้มีส่วนรับผิดชอบได้ชี้แจง โดยเฉพาะประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และกรรมาธิการมีข้อเสนอแนะว่า ควรจะปรับอะไร และถือว่าเป็นข้อเสนอที่กองทัพรับได้สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็จะนำไปพิจารณาเพื่อหาแนวทางดำเนินการต่อไป

ขณะที่นายรังสิมันต์ ระบุว่าจากการหารือวันนี้ได้รับประโยชน์เยอะมาก คณะกรรมาธิการ มีหลายคำถามที่อยู่ในความสนใจ  ซึ่งได้รับการอธิบายที่ดีและชัดเจนจากรัฐมนตรีและผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องที่ดิน ซึ่ง ได้คำตอบว่าประชาชนที่อยู่อาศัยมาก่อนแล้วจะได้รับเอกสิทธิ์ในการครอบครองส่วนผู้ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ก็จะได้สิทธิ์ในการเช่าใช้

ส่วนประเด็นที่เกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็มีความเข้าใจมากขึ้นว่ายังต้องมีกฎหมายพิเศษและได้รับคำตอบว่าในปี 2570 จะมีการยกเลิกทุกอำเภอ รวมถึงเรื่อง การแก้ปัญหาไอโอ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับปากว่าจะกวดขัน เข้มงวด ไม่ให้มีการใช้กระบวนการไอโอ

ส่วนเรื่องเรือดำน้ำขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการและเชื่อว่ากองทัพเข้าใจความกังวลใจประชาชนโดยในส่วนของกรรมาธิการฯ มองว่าหากไม่ได้ใช้เครื่องยนต์จากเยอรมันอาจจะใช้รูปแบบหรือสรรหาอาวุธประเภทอื่นที่ไม่เกินกรอบวงเงินเพื่อไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงว่า ในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพ ยังมีความจำเป็น

ขณะที่เรื่องการเกณฑ์ทหารได้เห็นว่า กองทัพพยามที่จะลดจำนวนทหารเกณฑ์ ซึ่งหวังว่าในอนาคตอาจอาจจะไม่มีการเกณฑ์ทหารต่อไป และเชื่อว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสามารถทำได้ ซึ่งจากการหารือในวันนี้ ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย มีความใกล้ชิดกับด้านความมั่นคง มากขึ้นและมีหลายปัญหาที่ได้ฝากฝังให้ทางกองทัพแก้ไขต่อไป

"วันนี้ ถือว่าเป็นนิมิตหมายดีที่นายสุทินได้เชิญผู้นำเหล่าทัพ ตัวแทนทุกเหล่าทัพเข้ามาหารือซึ่งมีเบอร์ติดต่อส่วนตัวของ “พี่สุทิน” อยู่แล้ว และเชื่อว่า การหารือกันในวันนี้ จะนำไปสู่การแก้ปัญหาให้กับประชาชนขณะที่นายสุทิน รับปากว่าจะจัดการในเรื่องของเบอร์ติดต่อ ผู้นำเหล่าทัพหรือตัวแทน ให้กับกรรมาธิการเพื่อติดต่อและแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถโทรหาตัวแทนหรือตนได้โดยตรง" นายรังสิมันต์ กล่าว