posttoday

สรรเพชญ เห็นด้วย ทำประชามติ ก่อนจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ย้ำ ห้ามแตะหมวด1-2

25 ตุลาคม 2566

สรรเพชญ อภิปรายสนับสนุนญัตติ จัดทำประชามติ สอบถามความเห็นประชาชนต่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ระบุ พรรคประชาธิปัตย์ สนับสนุนให้แก้ไข แต่ต้องไม่แตะหมวด 1-2 สรรเพชญ ผิดหวัง สภาฯ ตีตก ร่างญัตติ วอนรัฐบาล เร่งทำให้ชัดเจนต่อแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ

วันที่25ต.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ช่วงการอภิปรายญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเห็นชอบ และแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการ ให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ 

นายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า รัฐธรรมนูญพ.ศ.2560 มีปัญหาเรื่องของที่มา กระบวนการรับรอง โดยอาศัยกระบวนการจัดทำประชามติ เมื่อปี พ.ศ.2559 ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ตามครรลองที่ควรจะเป็น เนื่องจากในตอนนั้นมีการปิดกั้นการแสดงความเห็น การรณรงค์ ที่จะเสนอเนื้อหาว่ารัฐธรรมนูญมีจุดบกพร่องอย่างไร จนมาถึงสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ที่ผ่านมา มีการเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยมีส่วนร่วม ในการเสนอแก้ไขและได้ยื่นให้สส.พิจารณามาแล้ว จำนวน 6 ฉบับ แต่ผ่านแค่เรื่องเดียว เพราะติดอุปสรรคต่างๆ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้หลายประการ

นายสรรเพชญกล่าวว่า เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้วว่า ต้องมีการทำประชามติ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก วินิจฉัยว่า รัฐสภามีอำนาจ และหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องจัดทำประชามติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ให้ประชาชนลงมติว่า ต้องการให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่สอง เมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ต้องจัดให้มีการลงประชามติว่า จะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หากรัฐบาลดึงดันพลิกลิ้น ไม่รับให้มีการทำประชามติ ก็เหมือนกับว่า เป็นการถ่วงเวลา คิดว่าอันที่จริง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรเป็นวาระแรกๆ ที่ท่านจะดำเนินการเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล อย่าเอารัฐธรรมนูญมาเป็นตัวประกันให้เป็นระเบิดเวลาของตัวท่านเองเลย 

นายสรรเพชญอภิปรายอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน รัฐบาลเคยรับปากกับประชาชนไว้ตอนหาเสียงไว้ว่า จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทันทีที่เป็นรัฐบาล แม้ว่า นายสรรเพชญ จะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจัดให้มีการจัดทำประชามติ

ตนและพรรคประชาธิปัตย์ มีจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่จะต้องไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม เรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญไม่แพ้เรื่องปากท้องของประชาชน เพราะรัฐบาลได้เคยพูดเอาไว้ตอนหาเสียง ก็ขอให้ทำตามที่ได้หาเสียงไว้ ว่าจะทำเป็นเรื่องเร่งด่วนทันที 

เมื่อถึงการโหวตญัตติฯ ที่ประชุมสภาฯ มีมติ ตีตกญัตติดังกล่าว นายสรรเพชญ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวัง เพราะรัฐบาลเคยประกาศเอาไว้แล้วว่าจะทำการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องเร่งด่วน เมื่อมีโอกาสกลับทิ้งโอกาสนี้ไป แต่ก็เคารพและยอมรับผลการลงมติดังกล่าว และก็หวังว่าหลังจากนี้รัฐบาลจะมีแนวทางที่ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และรีบดำเนินการโดยเร็ว ตามที่ได้เคยหาเสียงไว้