posttoday

ขบวนการตรวจสอบ รุมถล่ม แจกเงินดิจิทัล เพื่อไทย ลุยต่อ ถอยไม่ได้

15 ตุลาคม 2566

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท พรรคเพื่อไทย ยังยืนกราน เดินหน้าต่อ ท่ามกลางเสียงท้วงติง นักเศรษฐศาสตร์ นักการเมือง หน่วยงานตรวจสอบ เริ่มปักหมุดตรวจสอบ ตั้งคำถามดังขึ้นเรื่อยๆ ได้ไม่คุ้มเสีย ไม่เกิดกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และจะซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว หรือไม่

ความคาดหวัง พรรคเพื่อไทย ต่อการดำเนินโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ประกาศกร้าว ตั้งแต่สมัยหาเสียงเลือกตั้ง กระทั่งได้เป็น รัฐบาลเพื่อไทย ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เป็นนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ไม่ว่าจะ สัมภาษณ์กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เศรษฐา และรัฐมนตรีในสังกัดพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรค สส.พรรคเพื่อไทย พูดตรงกัน ยังดำเนินนโยบายเหมือนเดิม  

ระหว่างทาง เสียงติติง-ท้วงติง เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการด้านการเงิน การคลัง 99คน ร่วมกันลงนาม คัดค้านโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หวั่นผลที่ออกมา 'ได้ไม่คุ้มเสีย'
 

สมาชิกวุฒิสภา(สว.) และ นักการเมืองฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตไปในท่วงทำนอง การดำเนินนโยบายเสี่ยงขัดกับกฎหมายวินัยการเงินการคลังของรัฐ แหล่งที่มาเงิน กับการที่รัฐบาลจะให้ธนาคารออมสิน รับโครงการดังกล่าวไปดำเนินการแทน โดยใช้เงินของธนาคาร รวม 5.6 แสนล้านบาท และรัฐบาลจะชดเชยให้ภายหลัง หากพิจารณาจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธนาคารออมสิน แล้วเห็น การดำเนินการดังกล่าวจะขัดกับกฎหมายของธนาคารหรือไม่ 

จะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่จริงหรือไม่ ระยะทางการใช้จ่ายเงิน 4 กม. อาจใช้ได้เพียงแค่พื้นที่ชุมชนเมือง แต่ด้วยภูมิศาสตร์แต่ละพื้นที่ ไม่เหมือนกัน แล้วจะทำอย่างไร ผู้สูงอายุ ที่ไม่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี หรือไม่มี สมาร์ทโฟน จะหาทางออกให้อย่างไร รวมทั้งตั้งข้อห่วงใย โครงการนี้จะซ้ำรอย โครงการรับจำนำข้าวในอดีตหรือไม่ 

ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)มีมติให้สำนักงาน ป.ป.ช.ตั้งคณะกรรมการพิจารณาศึกษาโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พร้อมเชิญนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ด้านเศรษฐศาสตร์และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาร่วมเป็นคณะกรรมการ เพื่อศึกษารายละเอียดโครงการดังกล่าวว่า มีข้อน่าห่วงใยหรือความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดปัญหาการทุจริตหรือผลกระทบด้านเศรษฐกิจในระยะยาวตามที่มีนักวิชาการและอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ท้วงติงมาหรือไม่

ผู้ตรวจการแผ่นดิน 'สมศักดิ์ สุวรรณสุจริต' ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ออกมาระบุ 'ผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องที่มีผู้ยื่นให้ตรวจสอบโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริง แม้รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติ เมื่อมีความชัดเจนผู้ตรวจการแผ่นดิน จะนำมาพิจารณา ให้ความเห็นและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูล และความเห็น แล้วนำมาเทียบกับหลักกฎหมาย หากเข้าเงื่อนไขที่สามารถส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครอง ก็จะดำเนินการต่อ แต่ขณะนี้ต้องขอดูข้อเท็จจริงความชัดเจนก่อน เพื่อพิจารณาว่าขัดหรือไม่ขัดต่อกฎหมาย'

สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพล) เพิ่งเปิดผลสำรวจ ประชาชนร้ายละ 30.92 ค่อนข้างกังวล ต่อนโยบายการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ว่าอาจทำให้ได้ไม่คุ้มเสียกับประเทศ เช่น เกิดภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของแพงขึ้น ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ตามคำเตือนของ 99 นักวิชาการและคณาจารย์เศรษฐศาสตร์

แม้ในหลายเรื่องหลายราว ที่ตั้งประเด็นไป ผู้ที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่แจกแจง ‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ รมช.คลัง และบุคคลที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงต่างกรรมต่างวาระ ยืนยันทำโครงการเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อเสียงท้วงติง อันเป็นที่มาถึงกระแสข่าว มีความเป็นไปได้ที่ อาจจะปรับหลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับความภูมิศาสตร์ของแต่ละพื้นที่ โดยขยายระยะทางจากการจับจ่ายใช้สอย 4 กม. ออกไปเป็นในระดับอำเภอ หรือ ในจังหวัดนั้นๆ การปรับเกณฑ์ผู้ที่จะได้รับสิทธิ อาจไม่ใช้วงเงินสูงถึง 5.6 แสนล้านบาทมาทำโครงการ

พร้อมกับ เริ่มฉายภาพแหล่งที่มาของเงินชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ระบบเทคโนโลยีที่จะมาทำโครงการ อย่าง บล็อกเชน ที่มั่นใจจะนำมาป้องกันระบบการรั่วไหล ไม่ให้เกิดการทุจริต อาจหันไปใช้ ระบบที่มีอยู่แล้ว โดยภาครัฐ มีทั้งฐานข้อมูลร้านค้า ชุมชุม ข้อมูลประชาชน ที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ รวมทั้งประชาชนคุ้นเคยอย่าง แอพเป๋าตังค์ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน
 
ขณะที่ สส.เพื่อไทย หลายคน ให้ไปในน้ำหนัก การรอคอยจากประชาชน ชาวบ้าน ที่หวังจะนำเงินดังกล่าวไปต่อยอดวิชาชีพ นำไปซื้อเมล็ดพันธ์ุข้าว เมล็ดพันธ์ุพืช ซื้อปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ซ่อมแซมบ้าน ซื้อของอุปโภค บริโภคในครัวเรือน เครื่องแบบ อุปกรณ์การศึกษาฯ และมั่นใจว่า โครงการนี้จะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ได้แน่นอน ไม่เป็นไปตามที่ นักวิชาการ หลายหน่วยงานแสดงความกังวล

แม้จะมีการ ปักหมุดตรวจสอบจากทั้งภาคการเมือง วุฒิสภา องค์กรอิสระ ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกันออกมาฉายภาพให้เห็นความน่ากลัว แต่พรรคเพื่อไทย สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือ 'ไม่มีทีท่าจะถอย และเดินหน้าต่อไป' 

โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาท ของเพื่อไทย ตั้งแต่ช่วงหาเสียงจนถึงวันนี้ พูดเอาไว้ คำใหญ่คำโต เรื่องถอย อาจไม่อยู่ในสารบบ ถึงจะเป็นก้าวที่เสี่ยง แต่ก็ต้องลุยไฟทำต่อไป ถอยไม่ได้ เพราะเพื่อไทย สร้างความหวังไปแล้วว่า  ประชาชนตั้งแต่อายุ16ปี จะได้เงินดิจิทัลแน่นอน 1 หมื่นบาทไปจับจ่ายแน่นอน ในต้นปี2567 แม้ในระยะยาว จะเจอมรสุม ด่านการตรวจสอบ เช็กบิล เข้มข้นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ อาจส่งผลกระทบไปถึง เสถียรภาพความเป็นรัฐบาลก็ตาม