posttoday

ตั้งเป้า ซอฟต์พาวเวอร์สร้างรายได้ 4 ล้านล้านต่อปี ดัน สงกรานต์งานระดับโลก

03 ตุลาคม 2566

ประชุมSoft Power ครั้งแรกคึกคัก เศรษฐา หวังขับเคลื่อน ซอฟต์พาวเวอร์ เพิ่มมูลค่าสินค้า บริการของไทย แพทองธาร ตั้งเป้าสร้างรายได้ 4 ล้านล้านต่อปี เปิดแผนงานระยะสั้น ระยะกลาง เล็งดัน สงกรานต์ให้เป็นงานระดับโลก เตรียมปรับแก้กฎหมาย เดินหน้าเสนอพรบ.Thacca เข้าสภา

วันที่ 3 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2566 มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการประชุม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ พร้อมทั้ง รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการ ผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาอาชีพ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยก่อนการประชุม นายเศรษฐา สวมสูทผ้าขาวม้าสีสดใสโทนสีช็อคกิ้งพิ้ง ส่วนน.ส.แพทองธาร ผูกผ้าขาวม้าที่เอว ทั้งคู่ได้หยุดยืนถ่ายภาพด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส 

นายเศรษฐากล่าวตอนหนึ่งระหว่างประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการหารือร่วมกันระหว่างราชการ ภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ประเทศไทยอย่างบูรณาการ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริม เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศไทยในเวทีโลก

ปัจจุบันมีคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องหลายคณะ รัฐบาลจึงจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติขึ้น ที่ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนการทำงานและแผนงานผ่านคอนเทนต์ 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์เป้าหมายในประเทศไทย

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายนี้แล้วขอนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นโยบายยังกล่าวสร้างระบบนิเวศแก่อุตสาหกรรมไทย ประเทศไทยจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยแรงงานทักษะสูงและการสร้างสรรค์อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ในสาขาต่างๆ รวมถึงการทูตเชิงวัฒนธรรม ศักยภาพของวัฒนธรรมและศักยภาพของคนไทย ถ้าได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ จะสามารถไปได้ไกลโดยนโยบายนี้จะทำควบคู่ไปกับนโยบายของรัฐบาล

เรามุ่งยกระดับคุณภาพและทักษะของคนไทย 20 ล้านคน ให้เป็นแรงงานที่มีทักษะสูง ถ้าเราสามารถทำนโยบายได้สำเร็จจะมีรายได้เข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี และการจ้างงานเพิ่มขึ้น 20 ล้านตำแหน่ง เศรษฐกิจจะมีการเติบโต ทั้งนี้จะแบ่งการทำงานเป็นขั้นตอนคือ การพัฒนาคน เฟ้นหาคนที่มีความฝัน 1 คน 1 ครอบครัว นำมาพัฒนาศักยภาพให้เป็นแรงงานที่มีศักยภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ในสาขาต่างๆใน 11 ประเภท และจะทำให้ครอบคลุม

จะมีการปรับแก้กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับต่างๆที่ไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน อำนวยความสะดวกให้อุตสาหกรรมต่างๆ สร้างวันสต็อปเซอร์วิส ดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆพร้อมกับสนับสนุนเงินทุนวิจัยและพัฒนา สร้างแรงจูงใจด้านภาษี ในชุมชนจะมีการสร้างศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบในทุกจังหวัด เพื่อให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ซอฟต์พาวเวอร์ไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ระดับสากล โดยความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงพาณิชย์ จะทำให้เทศกาลของคนไทยมีโอกาสในต่างประเทศ เมื่อเริ่มนับหนึ่งตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. จากแผนงานหากมีการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์

มีการตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะกลาง โดยระยะ 100 วันแรก ภายในวันที่ 11 ม.ค. 2567 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจะพร้อมให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนในด้านต่างๆ จะมีการปรับปรุงศูนย์บ่มเพราะสร้างสรรค์ให้กับสถาบันต่างๆ และเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายต่างๆ ที่อยู่ในระดับกระทรวงหรือพระราชกฤษฎีกา เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินนโยบาย รวมถึงการจัดเทศกาลฤดูหนาวในกรุงเทพฯอย่างยิ่งใหญ่ภายระยะเวลา 6 เดือนหรือในวันที่ 3 เม.ย.67 จัดงานสงกรานต์ให้เป็น world water festival เป็นเทศกาลระดับโลก ภายในระยะเวลา 1 ปีวันที่ 3 ต.ค.67 จะเสนอพระราชบัญญัติ THACCA ผ่านสภาผู้แทนราษฎร

มั่นใจว่าอุตสาหกรรมของเราจะเข้มแข็งขึ้นในอนาคตอันใกล้และเป็นที่รู้จักประเทศไทยจะต้องมีชื่อเสียงกว้างไกลระดับโลก ความสำเร็จนี้จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมทั้งประเทศ 20 ล้านครอบครัว ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกลายเป็นประเทศที่มีรายได้สูง