posttoday

สมศักดิ์ กำชับ เลขากฤษฎีกา ปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย

19 กันยายน 2566

สมศักดิ์ หารือ เลขากฤษฎีกา กำชับปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย เร่งผลักดันกฎหมายค้าง 2 ฉบับ เจ้าหน้าที่กล้าทำงาน ร้องเรียนยากขึ้น ส่งเสริมปศุสัตว์ ปกรณ์ ชี้คนไทยนิยมฟ้อง ส่งผลเจ้าหน้าที่ไม่กล้าทำอะไร พร้อมปรับปรุงกฎหมาย อำนวยความสะดวกประชาชน ป้องกันทุจริต

วันที่19ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี หารือกับ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงแนวทางการทำงาน 

นายปกรณ์ ได้รายงานกฎหมายที่มีทั้งหมดในประเทศไทยว่า ขณะนี้ มีรัฐธรรมนูญ 1 ฉบับ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ พระราชบัญญัติ 910 ฉบับ พระราชกำหนด 39 ฉบับ ประมวลกฎหมาย 8 ฉบับ พระราชกฤษฎีกา 7,288 ฉบับ และกฎกระทรวง 7,382 ฉบับ นายสมศักดิ์ ได้สอบถามว่า รัฐบาลไม่มีรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย จะต้องเพิ่มอะไรหรือไม่ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกากล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่พบปัญหา จากการที่นายสมศักดิ์ รองนายกฯ เคยเป็น รมว.ยุติธรรม จึงมองว่า มีความเข้าใจเรื่องกฎหมายเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

นายสมศักดิ์กล่าวว่า จะต้องช่วยกันปรับกฎหมายให้มีความทันสมัยมากขึ้น ตนมีความพร้อม เพราะมีความเข้าใจเรื่องการพัฒนากฎหมายแล้ว ขณะเป็น รมว.ยุติธรรม ได้เป็นผู้ผลักดันกฎหมาย ช่วยเหลือสังคมสำเร็จไปแล้วกว่า 10 ฉบับ เช่น กฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ ที่เป็นการเฝ้าระวังบุคคลอันตรายไม่ให้กระทำความผิดซ้ำได้อีก ส่วนกฎหมายที่ผลักดันค้างไว้มี 2 เรื่อง ที่อยากให้ช่วยกันขับเคลื่อนต่อ คือ กฎหมาย  Law of Efficiency ที่จะทำให้เกิดการร้องเรียนยากขึ้น โดยต้องฟ้องอย่างมีเหตุผล เพื่อทำให้เจ้าหน้าที่กล้าทำงานมากขึ้น ไม่ต้องกลัวถูกร้องเรียนแบบง่ายๆเหมือนปัจจุบัน และกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ จะเป็นการช่วยยกระดับเกษตรกร รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับสัตว์ และสนับสนุนการท่องเที่ยว

ปัญหาขณะนี้ มีหลายหน่วยงานกระจายกันดูทั้ง กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงอุตสาหกรรม ถ้ารวมไว้ที่เดียว จะสามารถบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น สามารถจัดเก็บภาษีเข้ารัฐได้อีก ปัจจุบันกีฬาสัตว์ยังไม่มีการจัดเก็บภาษี เงินที่ได้มา จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลสังคม เช่น ด้านการศึกษา การดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น 

นายปกรณ์กล่าวว่า ร่างกฎหมาย 2 ฉบับที่ค้างอยู่ จะรับมาพิจารณาต่อ เข้าใจว่า ตอนนี้ คนไทยนิยมฟ้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ ไม่กล้าทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับสังคม เนื่องจากกังวลว่า จะถูกร้องเรียนได้ จะมอบหมายให้กฤษฎีกานำร่างกฎหมายเดิมมาพิจารณา เพื่อขับเคลื่อนต่อ ส่วนกฎหมายส่งเสริมปศุสัตว์ สามารถทำเป็นซอฟพาวเวอร์ได้ จะเข้ามาดูว่า จะสามารถใช้ระเบียบสำนักนายกฯมาช่วยบูรณาการจากหลายหน่วยงาน รวมเป็นหนึ่งเดียวได้หรือไม่ เพราะเรื่องเดียว แต่มีกฎหมายขึ้นตรงกับหลายหน่วยงาน

นอกจากนี้ ก็พร้อมผลักดันกฎหมายให้มีความทันสมัย ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการอำนวยความสะดวกประชาชน ซึ่งต้องมีทั้ง ปรับปรุงกฎกระทรวง ทำกฎหมายอำนวยความสะดวกทางราชการ เพื่อช่วยลดต้นทุน ลดการทุจริต และช่วยให้ประชาชนเข้าถึงกฎหมายได้ง่ายขึ้น