"วันนอร์"ถก3ฝ่ายเคาะวันแถลงนโยบาย11-12ก.ย.66แบ่งฝั่งละ5ชม.
อดิศร เพียงเกษ เผยวิปรัฐบาลเสนอกรอบเวลาแถลงนโยบาย2วัน20ชม. แบ่งรัฐบาล-ฝ่ายค้าน-สว.ฝั่งละ5ชม. นายกฯไม่มีคำสั่งตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐมนตรี
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการประสานงาน 3 ฝ่าย หรือ วิป 3 ฝ่าย ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เพื่อวางกรอบเวลาการแถลงนโยบายรัฐบางต่อรัฐสภา และแบ่งสัดส่วนเวลาของแต่ละฝ่ายในการอภิปราย เบื้องต้น มีการกำหนดวันแถลงนโยบายไว้ ระหว่างวันที่ 11-12 กันยายนนี้
ด้าน นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะว่าที่ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า รัฐบาลตกลงที่จะแถลงนโยบายในวันที่ 11 กันยายนนี้ และจะแบ่งสรรเวลาแต่ละฝ่ายของ สส.ฝ่ายค้าน รัฐบาล วุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี โดยจะเสนอแบ่งฝ่ายละ 5 ชั่วโมง เพื่อความเป็นธรรม และเสมอภาค เพื่อให้การแถลงนโยบายผ่านไปด้วยดี การแถลงนโยบายครั้งนี้ ไม่ใช่การอภิปรายไม้ไว้วางใจ เป็นเพียงการติชมนโยบายเท่านั้น
ส่วนที่พรรคก้าวไกลกังวลรัฐบาล จะรวบรัดให้เวลาวันแถลงนโยบายเพียงเดียวนายอดิศร ยอมรับว่ามีความกังวล แต่ขอพรรคก้าวไกล เพราะพรรคเพื่อไทย ก็เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน จึงต้องการฟังกระจกเงาสะท้อนการทำงานจากฝ่ายค้านด้วย เพราะหากรัฐบาลไม่มีกระจกเงา ก็จะทำงานลำบาก
ส่วนการแถลงนโยบาย รัฐบาลจะให้ระยะเวลาการอภิปรายถึง 2 วันหรือไม่ นายอดิศร ย้ำว่า จะแบ่งการอภิปราย 20 ชั่วโมง ซึ่งตามเวลาอาจคาบเกี่ยว 2 วัน เพราะวันเดียวอาจไม่แล้วเสร็จ และวันเดียว อาจจะสั้นเกินไป
ในการแถลงนโยบายฯ ครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้เตรียมการตั้งรับใดมาก เพราะเป็นเพียงการแถลงนโยบาย แม้ สส.บางคนอยากจะใช้เวทีนี้ เป็นเสมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะมีล้ำเส้นบ้างเป็นธรรมดา ขอให้ฝ่ายค้าน อดทนรอ 4-5 เดือน ก็จะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งการแถลงโนยบาย นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับใด ๆ เป็นพิเศษ และให้อิสระ สส.ทำหน้าที่ เพื่อให้สภาทำงานราบลื่น และพร้อมมาตอบข้อซักถาม ไม่ต้องตั้งองค์รักษ์พิทักษ์รัฐมนตรีแต่อย่างใด
ขณะที่ ฝ่ายค้านโดยเฉพาะ พรรคก้าวไกล ได้เตรียมข้อมูล และ สส.ที่จะอภิปรายไว้แล้ว อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน, นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล, นายรังสิมันต์ โรม และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อของพรรค
ด้าน พรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ยังไม่มีการวางตัวบุคคลว่า จะให้ใครเป็นผู้อภิปราย โดยขอดูความชัดเจนในกรอบเวลา ที่จะให้ สส.แต่ละฝ่ายอภิปรายก่อน


