posttoday

เศรษฐา น้อมนำพระราชดำรัสไปปฏิบัติ ชี้ ปัญหาปากท้องประชาชน ต้องเร่งแก้ไข

05 กันยายน 2566

เศรษฐา-ครม. น้อมนำ พระราชดำรัสในหลวง ไปปฏิบัติ นายกฯระบุ พร้อมฟื้นฟูหลักนิติธรรมให้เข้มแข็ง ยก ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ต้องเร่งแก้ไข กระเป๋าเงินดิจิทัล 1หมื่นได้แน่ ต้นปี2567 ชี้ เป็นรัฐบาลประชาชน ไม่แบ่งฝ่าย ขอประชาชน เชื่อมั่น ระบุ 8ก.ย.ลงพื้นที่อีสานรับฟังปัญหา


วันที่ 5 กันยายน ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า ได้นำครม.เข้าเฝ้า เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน ตนและครม.จะน้อมนำกระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน ทุกท่านที่นี่ เป็นตัวแทนประชาชน ปัญหามีมากมาย เราจะทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย เอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง วันที่8ก.ย.จะลงพื้นที่จ.ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย เพื่อรับทราบปัญหาของประชาชน วันจันทร์ที่ 11ก.ย. แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาฯ

รัฐบาลนี้จะสร้างความชอบธรรม ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรม เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพโปร่งใส ภายใต้หลักการการมีส่วนร่วมประชาชน สร้างโอกาส ความเท่าเทียมเพื่อประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ความมั่งคั่ง ยั่งยืนในอนาคต

ถามว่า การประชุมครม.นัดพิเศษวันที่6ก.ย. นายเศรษฐากล่าวว่า มีเรื่องเดียว ในการมาพูดคุยเตรียมตัวแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 11ก.ย. ส่วนนายกรัฐมนตรีจะนั่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่นั้น เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ที่รัฐบาลชุดนี้ทุกคนให้ความสำคัญ แต่ขอไปพูดคุยภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันเองก่อน เพราะทุกคนน่าจะมีความคิดที่ดี เช่นเดียวกับ การแบ่งงานด้านความมั่นคง จะต้องจะพูดคุยกันก่อน เพราะบางคนเพิ่งเจอกันครั้งแรก

ถามว่า ประเมินผลงานคณะรัฐมนตรีกี่เดือน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงแล้วแต่เรื่องบางเรื่อง เพราะบางเรื่องอาจจะใช้เวลานาน ขอความเป็นธรรมให้กับรัฐมนตรีทุกคน เชื่อว่าทุกคนเข้าใจในปัญหาของประชาชน เรื่องการเร่งทำงาน เรื่องการทำงานจนลืมความเหน็ดเหนื่อยไม่ใช่ประเด็น ขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกคนได้ทำงานก่อน

ถามอีกว่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะทำใน 100 วันแรกหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่เคยบอกว่า จะทำให้ 100 วัน แต่จะพยามทำให้เร็วที่สุดคิดว่าสามารถทำได้ในไตรมาสที่ 1 ของปี2567 ยืนยันว่า จะจ่ายงวดเดียว

นายเศรษฐากล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน เชื่อว่า รัฐมนตรีทุกคนเข้าใจ ตระหนักถึงปัญหาที่เผชิญ คงไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แต่จะเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนการทำประชามติ ให้มี สสร. แก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ขอให้รอหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภาฯ เช่นเดียวกับการวางตัวรองนายกรัฐมนตรี ที่จะดูแลด้านกฎหมาย ขณะนี้ได้วางตัวไว้แล้ว แต่ขอให้รอหลังแถลงนโยบายรัฐบาลก่อน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติตั้งแต่วันที่ 18ก.ย. มีหลายเรื่องก็ต้องไปพูดคุยกัน แล้วแต่เรื่องที่จะไปเจอกับผู้นำในแต่ละประเทศ และอาจจะเจอนักธุรกิจด้วย แต่ขณะนี้เพิ่งเข้ามาทำงาน ขอเตรียมงานก่อน

เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้คือรัฐบาลความหวังของประชาชนจะสามารถบอกได้หรือไม่ว่า ในระยะเวลาเท่าไหร่ ที่ประชาชนจะมีเงินมากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นคำถามที่เชื่อว่าประชาชนทุกคนก็อยากจะทราบ วันนี้ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่สำคัญที่สุดที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ทุกวัน มั่นใจว่ารัฐมนตรีทุกคนจะทำงานอย่างหนัก พยายามเข็นนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน บางอย่างอาจทำได้เร็ว บางอย่างทำได้ช้า แต่จะไม่เอามาเป็นข้ออ้างที่จะไม่ทำทั้งหมด อะไรที่ติดขัดอยู่บ้างก็ทำต่อไป ไม่ใช่เหตุผลที่จะไม่ทำอะไรเลย

ไม่มีช่วงฮันนีมูน เพราะตั้งแต่ฟอร์มรัฐบาล ลงพื้นที่เก็บข้อมูล รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน แต่ยังไม่สามารถสั่งการได้ ต้องรอให้แถลงนโยบายรัฐบาลก่อนจึงจะสั่งการได้ และในวันศุกร์ที่ 8ก.ย. จะลงพื้นที่ภาคอีสานเก็บข้อมูลอีก 

เมื่อถามว่า หากจะให้นายกรัฐมนตรีพูดให้ดังที่สุดหนึ่งประโยคไปถึงประชาชนอยากพูดอะไรที่สุด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นอะไรที่ยากถ้าให้พูดประโยคเดียว ขอให้เชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่า พวกเรามีความตั้งใจจริง พวกเราตระหนักถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ความแตกแยกทางความคิด รัฐบาลจะให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียม พยายามเดินไปข้างหน้าจัดการกับปัญหานี้ให้เร็วที่สุด มั่นใจว่า พรรคร่วมรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันตรงนี้จะอบอุ่นตลอดไป เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน