posttoday

'นายกฯ' ขอพิจารณาสานงานต่อ 'ประยุทธ์' ตามเหมาะสม ยึดประโยชน์ประเทศเป็นหลัก

26 สิงหาคม 2566

'เศรษฐา' ขอพิจารณาสานงานต่อประยุทธ์ตามเหมาะสม โดยจะทำงานภายใต้ผลประโยขน์ของประเทศเป็นหลัก รับสภาวะเศรษฐกิจไทยมีปัญหา และประชาชนคาดหวัง ไม่หวั่นกับผลโพลความนิยมที่ลดฮวบขอใช้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์เฟซบุ๊กส่งไม้ต่อเก้านี้นายกรัฐมนตรีและสานงานรัฐบาลต่อว่า ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด โดยจะรับไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมาจากรัฐบาลเดิม ก็จะมีการไปรับฟังงานที่ค้างไว้ โดยเฉพาะงานต่างประเทศที่สามารถสานต่อได้ ส่วนในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็ต้องดู ว่าสิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาสถานการณ์การเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ และบางอย่างจะล็อคยาว 20 ปีก็ต้องดูความเหมาะสมและสอดคล้องกับโลกปัจจุบัน

 

ในกรณีของการจัดตั้งครม. นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวก็มีความใกล้เคียง แต่ขณะนี้ยังไม่อยากก้าวล่วงคณะเจรจา ซึ่งขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปในทางที่ดี อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน ส่วนบุคคลใดจะเข้ามาดูแลกระทรวงไหน จะยึดความเจริญของประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่แค่การจัดสรรอย่างเดียว ซึ่งของพรรคเพื่อไทยเหลืออีกนิดเดียว 2-3 ตำแหน่ง ส่วนในกรณีที่มีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยได้กระทรวงมหาดไทย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เป็นชื่อของรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย  นายภูมิธรรมจะเสียใจหรือไม่นั้น เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ สำหรับตำแหน่งในกระทรวงใหญ่ๆ มีการพูดคุยกันแล้ว และคิดอย่างดีแล้ว เพราะผู้ใหญ่ในแต่ละพรรคทุกคน ผ่านการดูแลงานมาเยอะเชื่อว่าทุกคนมีความเหมาะสม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงประเด็นตัวแทนการค้า ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีบทบาทเท่าไหร่ว่า เรื่องนี้ รัฐบาลจะให้ความสำคัญ ตามความเข้าใจของตัวเองผู้แทนการค้ามี 5 คน และสามารถตั้งประธานได้อีก 1 คน ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสำคัญที่พัฒนาประเทศ โดยจะพิจารณาความเหมาะสมและความสามารถส่วนบุคคลในการแต่งตั้ง ขออย่าบอกว่าเป็นโควตาของพรรคไหนให้เอาประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ขอเอาผลงานเป็นที่พิสูจน์การทำงานของรัฐบาลนี้รวมถึง กระแสข่าวที่ว่าตนเองจะควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าสภาวะเศรษฐกิจมีปัญหา และรับทราบว่าการคาดหวังของประชาชนสูง แต่ก็เชื่อว่า คนที่ถูกคัดเลือกจะทำหน้าที่พร้อมที่จะทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย และเป็นธรรมดาที่รัฐมนตรีช่วยว่าการจะต้องร่วมงานกับรัฐมนตรีว่าการ และการนำโจทย์ความลำบากของประชาชนไม่ว่าบุคคลที่จะมาเป็น รัฐมนตรีช่วยไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดจะสามารถคุย และทำงานร่วมกันได้ ไม่อยากตั้งแง่ว่ามาจากพรรคไหน

 

“เชื่อว่า 11 พรรคที่มาอยู่ด้วยกันวันนี้เชื่อว่าทุกคนเข้าใจถ่องแท้ถึงความต้องการของประชาชนเข้าใจถึงปัญหา เข้าใจถึงการเดินไปข้างหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง” นายเศรษฐากล่าว

 

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยมองว่า เป็นเรื่องสำคัญและเป็นมาตรการหลักของพรรคเพื่อไทยยืนยันเดินหน้าเต็มตัวแต่ตอนนี้ขอดูรายละเอียดอีกทีก่อน โดยวันจันทร์และวันอังคารนี้ได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยรวบรวมข้อมูล และจะจัดทำไทม์ไลน์ หวังว่าในไตรมาสหนึ่งปีหน้าจะดำเนินการได้

และเมื่อถามว่าข้อมูลข่าวความนิยมของศรีปทุมโพลพบว่าความนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลงร้อยละ 60 นายเศรษฐา ระบุว่า ขอให้ผลงานพรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งขณะนี้เราทำงานทุกวัน และทุกคนร่วมกันโดยไม่มีความเหน็ดเหนื่อย โดยยอมรับว่าความคาดหวังของคนไม่สามารถควบคุมได้ แต่ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยได้คุยพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนจะเข้าใจ