กรมราชทัณฑ์แจงส่งทักษิณเข้ารพ.ตำรวจป่วยโรคหัวใจต้องระวังเป็นพิเศษ
กรมราชทัณฑ์ชี้แจงปมส่งทักษิณเข้ารพ.ตำรวจกลางดึก เนื่องจากมีอาการนอนไม่หลับแน่นหน้าอกความดันสูง ระดับออกซิเจนต่ำและโรคหัวใจที่ต้องระวังเป็นพิเศษประกอบกับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ
กรณีมีรายงานข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับเข้าประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ15ปี ถูกนำตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครไปส่งที่รพ.แห่งหนึ่ง เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 23สิงหาคมที่ผ่านมา
นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ในฐานะโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครว่าเมื่อเวลา 23.59 น. ของวันที่ 22 สิงหาคม พัศดีเวรได้รายงานว่านายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แดน 7 อยู่ระหว่างการกักโรค มีอาการนอนไม่หลับแน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ พยาบาลเวรเรือนจำ ได้ติดต่อขอคำแนะนำกับแพทย์ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์ได้สอบถามอาการโดยละเอียดแล้ว
ตลอดจนพิจารณาจากรายงานประวัติการรักษาของผู้ป่วยโดยแพทย์จากโรงพยาบาลต่างประเทศ (สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) พบมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง พังผืดในปอด กระดูกสันหลังเสื่อม
โดยโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือโรคหัวใจเนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า โดยแนวปฏิบัติกรณีมีผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตจะมีการส่งตัวรักษาให้ทันท่วงที
นายสิทธิฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้น เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้รับตัวไว้เพื่อทำการบำบัดรักษาเมื่อเวลา 00.20 น ของวันที่ 23 สิงหาคม2566 โดยเรือนจำได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุม ตามระเบียบขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์